เกือบทุกวันในช่วงนี้ หน่วยกู้ภัยจะเข้าเก็บศพ ผู้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุถี่ขึ้น ซึ่งการเคลื่อนศพ แพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช แนะนำว่ากรณีสุ่มเสี่ยงให้ปฏิบัติเหมือนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไว้ก่อน โดยผู้เสียชีวิตหากไม่ทราบสาเหตุแพทย์นิติเวชก็จะตรวจ Rapid Test ร่วมกับการวิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิต พร้อมยืนยันว่าศพผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 จะห่อหุ้มศพอย่างดี สามารถประกอบพิธีทางศาสนาได้ เพียงแต่ไม่มีการฉีดยารักษาศพ ทำให้ต้องใช้เวลาประกอบพิธีอย่างรวดเร็ว

การเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุตามชุมชนต่างๆ เกิดขึ้นในระยะนี้บ่อยครั้ง สร้างความวิตกให้คนในชุมชน เพราะหากเสียชีวิต โดยไม่ทราบสาเหตุ หลายคนก็เกรงว่าน่าจะมาจากติดเชื้อโควิด19 โดยหน่วยกู้ภัยที่เข้าไปเก็บศพได้ฉีดพ่นเชื้อและสวมชุด PPE ตามคำแนะนำของแพทย์ ที่ให้ถือปฏิบัติในกรณีพบศพที่เป็นการสุ่มเสี่ยงให้ปฏิบัติเหมือนศพผู้ป่วยโควิด-19 ไว้ก่อน

รศ.นพ.วิศิษฐ์ วามวานิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ให้ข้อมูลว่า แผนกนิติเวช ของโรงพยาบาล จะมีศพมาจาก 2 ส่วน คือศพของผู้ป่วย ที่ผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลก็จะทราบสาเหตุการเสียชีวิตชัดเจน ส่วนผู้เสียชีวิตนอกโรงพยาบาล จะถูกส่งมาในกรณีเสียชีวิตผิดธรรมชาติ และญาติสงสัย เพื่อให้แพทย์พิสูจน์สาเหตุการตาย ส่วนในกรณีเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุและถูกส่งมาที่รพ.แพทย์นิติเวช ก็จะวิัเคราะห์ว่าเป็นโควิดหรือไม่ มีการตรวจด้วย Rapid test เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต

ขณะที่ศพเสียชีวิตจากโควิด-19 แพทย์นิติเวช จะห่อหุ้มศพด้วยถุงพลาสติก 2 ชั้น แต่จะไม่มีการฉีดยารักษาศพ เพราะลดโอกาสเชื้อปนเปี้ยนจากการสัมผัส ญาติจึงห้ามเปิดศพมารดน้ำศพอย่างเด็ดขาด สามารถตั้งสวดอภิธรรมในเวลาอันสั้น ได้ แต่ต้องฌาปนกิจโดยเร็ว เนื่องจากศพไม่ได้ฉีดยารักษาศพ

โดยขณะนี้วัดส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจมากขึ้น ว่าศพจะเสี่ยงน้อยกับการแพร่เชื้อ และญาติของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาร่วมพิธี เนื่องจากบางคนก็ติดเชื้อรักษาตัวอยู่ในรพ. บางคนก็เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัว ทำให้มีญาติมาร่วมพิธีน้อยมาก ซึ่งขณะนี้หลายวัดก็รับฌาปนกิจ ให้กับผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 โดยพระภิกษุจะทำพิธีสวด ก่อนจะฌาปนกิจตามหลักศาสนา โดยใช้เวลาในการประกอบพิธี ไม่ถึง 1 ชั่วโมง