พรรคกล้า เปิดคลับเฮาส์ “กรณ์ ร่วมถกประชาชนกลุ่ม “ร้านอาหาร” พร้อมร่วมมือรัฐกันระบาด-ต้องเยียวยา-ก่อนตายทั้งระบบ

เลือกตั้งและการเมือง

พรรคกล้า เปิดคลับเฮาส์ “กรณ์ ร่วมถกประชาชนกลุ่ม “ร้านอาหาร” พร้อมร่วมมือรัฐกันระบาด-ต้องเยียวยา-ก่อนตายทั้งระบบ

โดย JitrarutP

5 พ.ค. 2564

56 views

พรรคกล้า เปิดคลับ Idea I do ในคลับเฮาส์ ระดมสมองหาทางออกช่วยเหลือร้านอาหาร ในหัวข้อ “ร้านอาหารกำลังจะตาย ควรช่วยยังไง” โดยมีผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่ 6 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการห้ามนั่งทานในร้าน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ของรัฐบาล ตลอดจนเชฟร้านอาหารชื่อดัง เชฟต้น-Le Du เชฟตาม-บ้านเทพา เชฟหนุ่ม-ซาหมวย&ซันส์ เชฟนิค เต้-พันชนะ จากสมาคมตัวแทนร้านอาหารและโครงการ Food For Fighters ตัวแทนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ Robinhood และเจ้าของร้านอาหารดัง ร้านอาหารสตรีทฟู้ดเข้าร่วมรับฟังกว่า 1 พันคน


นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ผู้ประกอบการร้านอาหารได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทั้ง 3 ระลอก ก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน แต่เท่านั้นไม่พอ เราต้องมีข้อเสนอมาตรการเพื่อให้อยู่รอด แต่อย่างน้อยเที่ยวนี้เราพอที่จะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ที่จะสร้างความมั่นใจในระดับหนึ่งคือเดือนหน้า (มิถุนายน) เราจะมีวัคซีนตามที่รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะเริ่มฉีดให้กับประชาชนและจะฉีดครบภายในสิ้นปี


ทั้งนี้จากที่ดูจากหลายประเทศเมื่อประชาชนเขาได้รับวัคซีนแล้ว ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจบริการ และร้านการค้าปลีกต่าง ๆ มีตัวเลขชัดเจนว่าฟื้นตัว ซึ่งก็เชื่อว่าหลังจากเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตามกว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นก็คงจะต้องรอไตรมาส 4 ดังนั้นโจทย์สำคัญคือช่วงนี้เราทำอะไรได้บ้าง และรัฐบาลจะช่วยอะไรเราได้บ้าง เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่รอด เพราะอุตสาหกรรมร้านอาหาร ไม่ใช่อุตสาหกรรมขนาดเล็ก จากตัวเลขของ “วงใน” ระบุว่ามีถึง 230,000 ร้าน มีจำนวนชีวิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้นับล้านคน


โดยพรรคกล้าได้ออกแถลงการณ์ถึงรัฐบาล เสนอ 5 มาตรการเยียวยาคือ


1. ควรเร่งเจรจากับ Platform online ที่ร้านอาหารทั้งหลายใช้เป็นช่องทางขายและจัดส่งอาหารอยู่ในปัจจุบัน ไม่ให้คิดค่าธรรมเนียมการใช้บริการหรือGP เกิน15% อย่างน้อยก็ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด เพื่อแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการและประชาชน


2. ควรช่วยเหลือเยียวยาค่าจ้างเงินเดือนของพนักงานในร้านอาหารเหล่านี้สัก 50% ในช่วงที่รัฐบาลประกาศห้ามมีลูกค้านั่งในร้านอาหารเหล่านี้


3.งดการจัดเก็บภาษีให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของรัฐบาลในการหยุดให้บริการ ในรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา


4.ผ่อนผันในเรื่องการผ่อนชำระเงินกู้และดอกเบี้ยของ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ด้วยมาตรการงดผ่อนต้นผ่อนดอก ไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน และ


5.ในกรณีที่ร้านอาหารมีค่าเช่าพื้นที่ เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า เจ้าของพื้นที่ควรลดค่าเช่าให้ด้วย อย่างน้อย 50% และเจ้าของพื้นที่สามารถนำส่วนลดที่ให้กับร้านอาหารเหล่านั้น ไปขอลดหย่อนภาษีจากทางรัฐบาลได้ ในรอบบัญชีถัดไป เพื่อเป็นการชดเชยและลดค่าใช้จ่ายให้ร้านอาหารที่ต้องเสียค่าเช่าทุกเดือน


และในช่วงที่มีการแชร์ประสบการณ์ ก็มีผู้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง อาทิ สีหนาท ล่ำซำ ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มฟูดดิลิเวอรี่ “Robinhood” ซึ่งไม่มีการเรียกเก็บค่า GP ที่มองว่า ในช่วงสถานการณ์นี้ แพลตฟอร์มส่งอาหารไม่ควรเก็บ GP แต่ควรเอาส่วนนั้นเป็นส่วนลดให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความสัมพันธ์โดยตรง นอกจากนี้ ช่องทาง Social Media ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ทำให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าและสามารถเลือกได้


ขณะที่ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ก่อตั้ง “เพนกวิ้นกินชาบู” กล่าวว่า จากที่ได้คุยกับผู้ประกอบการร้านอาหารหลาย ๆ ท่านพบปัญหาเดียวกันคือ ค่า GP ที่ตอนนี้เรียกเก็บอยู่ที่ 35% ของราคาสินค้าค่อนข้างสูงไป ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลดลงมาเหลือ 15-20% ก็ยังพออยู่ได้ ตอนนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารบางรายแม้จะพอขายได้ แต่มันไม่มีกำไร การจัดการทางการตลาดก็ต้องมีต้นทุน ถ้าคนทำไม่เป็นก็จะหายไป

คุณอาจสนใจ

Related News