‘น้องภูผา’ เด็กติดโควิด ร้องไห้คิดถึงน้อง พ่อเล่าช่วงเวลาบีบหัวใจ หลังลูกติดเชื้อคนเดียวในบ้าน

ข่าวโซเชียล

‘น้องภูผา’ เด็กติดโควิด ร้องไห้คิดถึงน้อง พ่อเล่าช่วงเวลาบีบหัวใจ หลังลูกติดเชื้อคนเดียวในบ้าน

โดย thichaphat_d

27 เม.ย. 2564

791 views

จากกรณีที่น้องภูผา เด็กชายวัย 6 ขวบ ติดโควิด ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ซึ่งผู้เป็นพ่อได้โพสต์ภาพขณะที่รถพยาบาลมารับ ระบุว่า “เป็นความรู้สึกที่บีบหัวใจ ลูกชายพูดว่าพ่อไม่ต้องดูแลหนูขนาดนี้ก็ได้หนูไม่เป็นไรหรอก ,พ่อหนูฝากเล่นกับน้องแทนหนูด้วยนะอย่าตีน้องนะ, ต้นกล้าพี่ไปก่อนนะ ถ้าพี่หายพี่จะกลับมากอดมาฟัด,คำถามสุดท้ายทำไมไม่มีใครกอดหนูเลยอ่ะพ่อ


ผู้สื่อข่าวได้คุยกับนายภาณุวัตร คูณกะทา พ่อของน้องภูผา เปิดใจว่า ตนทราบเรื่องวันที่ 23 เม.ย. ว่าลูกผลตรวจโควิดเป็นบวก คนเดียวในบ้าน หลังจากตรวจรอบ 2 ตอนนั้นกำลังทานข้าวอยู่ ทุกคนในบ้านร้องไห้ ยกเว้นน้องภูผา เพราะว่าทางครอบครัวกังวลมาก พอตั้งสติได้ จึงให้ทุกคนอาบน้ำให้เร็วที่สุด เข้าห้องใคร ห้องมัน มีเพียงตนน้องภูผาอยู่กลางบ้าน ต้องจัดที่ให้น้องนอนแยก ซึ่งในบ้านมีเพียงห้องพระเล็ก ๆ ที่น้องนอนได้ ซึ่งน้องภูผาก็กลัวห้องพระตามประสาเด็กและบอกว่า “ไม่นอนได้ไหม” ตนรู้สึกเศร้าเล็กน้อย


ตนจึงบอกลูกว่า ไม่ต้องกลัว พ่อจะนอนอยู่หน้าห้องพระ เปิดประตูไว้เป็นเพื่อนลูก ตนเองทราบดีว่าไม่ปลอดภัย แต่สถานการณ์มันบังคับ ดีกว่าให้ลูกอยู่คนเดียว น้องภูผา ไม่มีอาการว่าติดเชื้อโควิดอะไรเลย


วันต่อมาตนก็พยายามอธิบายให้ลูกฟัง และเปิดคลิปข่าวต่าง ๆ ให้ดู ซึ่งเด็กไม่เข้าใจว่าโควิดคืออะไร ตนก็พยายามอธิบายให้เขารู้ ว่าจะต้องปฏิบัติตัวยังไง จะต้องฟังคุณหมอ ต้องไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร พร้อมกับย้ำให้ลูกเข้าใจว่าโรคนี้โดนตัวคนอื่นไม่ได้ ไม่ได้รังเกียจแต่เป็นการรับผิดชอบต่อสังคม เขาก็พยักหน้าฟังเราตลอด


เช้าของวันที่ 25 เม.ย. มีเจ้าหน้าที่โทรมาหา บอกว่าจะมีรถพยาบาลมารับ ซึ่งผู้ใหญ่ร้องไห้ ในตอนนั้นเราจึงตกลงกันว่าจะไม่ร้องไห้ให้ลูกเห็น เพราะเด็กจะงง ไม่เข้าใจ ในตอนที่รถจะมาลูกถามเพียงว่า "หนูต้องไป ไม่มีใครไปกับหนูเลยเหรอ" จึงปลอบและให้กำลังใจไป ว่าอาจจะสนุกก็ได้


ก่อนที่รถพยาบาลจะมารับ ยอมรับว่าสงสารลูกตั้งแต่ทราบข่าว ต้องบังคับให้ลูกใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แม้แต่เวลานอน เพราะที่อื่นไม่สะอาดเหมือนที่บ้าน เราก็ฟังลูกตลอดแทบไม่ได้นอน ซึ่งระหว่างนั้น เราดูแลลูกมากกว่าปกติทำให้ทุกอย่างจากที่เขาเคยทำเอง ทำให้ลูกชายพูดว่า "ไม่ต้องทำให้เพราะเขาไม่ได้เป็นอะไร" ซึ่งก่อนที่เขาจะมาคุยกับตน เขาไปสั่งลากับน้องและแม่เรียบร้อยแล้ว ไปบอกน้องว่า “วันไหนถ้าพี่หายเร็ว ๆ พี่จะกลับมาฟัดมาหอมนะ”


ตอนเห็นรถโรงพยาบาลตนและภรรยาก็น้ำตาเอ่อ จากที่ตกลงกันว่าจะไม่ร้องไห้ เพราะที่ผ่านมานอนกับลูกทุกวัน ก่อนขึ้นรถลูกได้บอกว่า “ไม่อยากไป” ตนก็ให้กำลังใจพูดได้แค่ว่า "ลูกทำได้ ลูกเก่ง" พูดได้เท่านั้น เพราะน้ำตามันจะไหล


เจ้าหน้าที่บอกว่า น้องภูผาอยู่โรงพยาบาลก็เข้มแข็ง มีร้องไห้คืนแรกบอกว่า “อยากกลับบ้านมานอนกับพ่อ” ตนคุยกับลูกตลอด ต้องขอบคุณพี่ข้างเตียง ที่ช่วยสมัครไลน์ให้ ทำให้ได้คุยกับลูกบ่อย ๆ อุ่นใจว่าน้องอยู่ได้ มีคนสั่งไก่ทอดไปให้น้องกิน มิตรภาพที่ให้มาเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ กำลังใจเลย บุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลที่เห็นข่าวก็แวะเวียนไปเยี่ยมน้อง ซื้อของไปให้น้องกิน


น้องภูผากำลังใจดีมาก ตนได้คุยกับลูกชายทางโทรศัพท์และเปิดกล้องวีดีโอไลน์คุยกัน เขาจะเล่าให้ฟังว่ามีคนนั้นคนนี้มาเที่ยวหา ส่งขนมและน้ำมาให้กิน น้องแค่บอก “หนูอยากกลับบ้าน” แต่ไม่ได้ร้องไห้ และนั่งนับวันรอเวลาที่จะได้ออกจากโรงพยาบาล ลูกบอกว่า “ อีกไม่กี่วันหนูก็จะได้กลับแล้ว” และถามหาสมาชิกในบ้านทุกคน โดยเฉพาะ ’น้องต้นกล้า’น้องชายของเขา อย่างไรก็ตามหากมีอาการผิดปกติทางโรงพยาบาลก็จะโทรมาแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ตอนนี้รักษาตามอาการ



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Q9zGutw-NMI

คุณอาจสนใจ

Related News