ผอ.รพ.สิชล เมืองคอน โพสต์ภาพเบื้องหลังการตรวจทางห้องปฏิบัติการ "อ่อนล้าไปบ้าง แต่ไม่ท้อถอย"

ข่าวโซเชียล

ผอ.รพ.สิชล เมืองคอน โพสต์ภาพเบื้องหลังการตรวจทางห้องปฏิบัติการ "อ่อนล้าไปบ้าง แต่ไม่ท้อถอย"

โดย passamon_a

26 เม.ย. 2564

477 views

ผอ.รพ.สิชล เมืองคอน โพสต์ภาพเบื้องหลังการตรวจทางห้องปฏิบัติการ "อ่อนล้าไปบ้าง แต่ไม่ท้อถอย" ระบุ เจ้าหน้าที่ทุกคนกำลังทำงานเต็มที่ บางวันทำงาน 20 ชั่วโมง


วันที่ 26 เม.ย.2564 นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์เฟซบุ๊กภาพเบื้องหลังการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมระบุว่า


เบื้องหลังการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ต้องใช้นักเทคนิกการแพทย์ ที่มีความชำนาญด้านการตรวจอณูชีววิทยา ที่ต้องมีการรายงานผลที่แม่นยำ ทันเวลา ต่อการควบคุมโรคและการรักษา รวมถึงการป้องกันไม่ให้มีการปนเปื้อนในห้องปฏิบัติการ การไม่ให้เจ้าหน้าที่ต้องติดเชื้อ จะยิ่งบั่นทอนกำลังในการทำงาน


เมื่อตัวอย่างได้ถูกส่งมาถึงห้องปฏิบัติการ ขั้นตอนแรกตรวจสอบความถูกต้อง ลงบันทึกข้อมูลในระบบ จึงเข้าห้องสกัดเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องใส่ชุดป้องกันสูงสุด หน้ากาก n95 และแยกเชื้อในตู้ปลอดเชื้อ หลังจากนั้นนำเข้าเครื่องสกัดโดยสกัดได้ครั้งละ 32 ตัวอย่าง รอเวลาประมาณ 30-40 นาที ต่อรอบ เมื่อได้ตัวอย่างที่สกัดแล้ว จะนำเข้าไปเติมน้ำยาให้มีการขยายเชื้อก่อนเข้าสู่เครื่องอ่าน ที่สามารถอ่านได้ครั้งละ 94 ตัวอย่าง ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานประมาณ 3 ชั่วโมง


รวมเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ที่ต้องทำต่อเนื่อง ต่อ 1 รอบ ถ้าทำวันละ 4 รอบ ตรวจได้วันละ 376 ตัวอย่าง ใช้เวลาทำงาน 20 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อยที่ต้องอยู่ในห้องปฏิบัติการ ยังไม่รวมถึงการถอดชุดออกมากินข้าว เข้าห้องน้ำ การใส่ชุดเปลี่ยนชุด การลงบันทึกข้อมูล การส่งรายงาน หากตัวอย่างที่เข้ามามาก งานก็มากไม่ได้หยุดพัก ที่ผ่านมาบางวันกว่า 600 ตัวอย่าง


เจ้าหน้าที่แทบไม่มีเวลานอน ต้องอาศัยพื้นที่หน้าห้องปูเสื่อพอได้งีบบ้าง รอบสุดท้ายจะเข้าเครื่องอ่านตอนตีสาม แล้วออกมาเคลียร์เอกสาร แปลผลรอบก่อนหน้านี้ เพื่อรายงานกรณีผลบวกไปก่อน เช้ามาก็มาอ่านรอบที่ลงเครื่องไว้ หมุนวนกันไปแบบนี้เรื่อย ๆ จนกว่าจะคุมการระบาดได้


ในช่วงนี้มีการระบาดรุนแรง ทางโรงพยาบาลสิชล จึงได้เพิ่มกำลังการตรวจ อีกเท่าตัว โดยวางเครื่องสะกัดและเครื่องอ่านผลอีก 1 ชุด ทำให้สามารถตรวจได้วันละ 800 ตัวอย่าง จะช่วยทำให้รายงานผลทันเวลา ภายใน 24 ชั่วโมง


เป็นอีกมุมหนึ่งของบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อประชาชนคนไทย ทุกคนสามารถช่วยได้ ต้องหยุดปัจจัยเสี่ยงต่อการกระจายเชื้อ เพราะปัจจุบันไม่รู้ว่ารับเชื้อจากที่ไหนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ การตามรอยโรคจึงยากแก่การควบคุม #อ่อนล้าไปบ้าง แต่ไม่ท้อถอย




ที่มา เฟซบุ๊ก : Arak wongworachat

คุณอาจสนใจ