สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด กำลังส่งผลถึงเก้าอี้รัฐมนตรีสาธารณสุขของนายอนุทิน ชาญวีรกูล แล้ว หลังจากมีการณรงค์เข้าชื่อเรียกร้องให้นายอนุทินลาออก ล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อมากกว่า 1 แสนคน

การล่าชื่อนี้เกิดขึ้นโดยผู้ใช้ชื่อ “หมอไม่ทน” โดยได้ตั้งแคมเปญรณรงค์รวบรวมรายชื่อผ่านเว็บไซต์ Change.org เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีสาธารณสุข ลาออก โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีความสามารถในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของโรคโควิด ทั้งเรื่องการวางนโยบาย การจัดการทรัพยากร การจัดหาวัคซีน รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรทางการแพทย์

จึงขอเรียกร้องให้นายอนุทิน ลาออก และให้ผู้ที่มีความสามารถ มีความเหมาะสมมากกว่าเข้ารับตำแหน่ง ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งล่าสุดมีผู้มาร่วมลงชื่อแล้วมากกว่าหนึ่งแสนคน

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีที่มีการลงชื่อกดดันโดยกลุ่ม “หมอไม่ทน” ให้รัฐมนตรีว่าการ สธ.ลาออกจากตำแหน่ง ว่า ตนทำงานอยู่และอดทน มั่นใจว่ายังทำงานกับบุคลากรทางการแพทย์ได้ หมอยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และบอกว่า “เรื่องขวัญกำลังใจของผมไม่มีปัญหา เพราะผมทำงาน ผมบอกตัวผมเองว่ากำลังทำงาน ใครชมผมก็ขอบคุณ ใครว่าผมก็ฟัง ถ้ามันเข้าท่า ผมก็ทำตาม ตอนเข้ามาผมขอเข้ามาที่นี่ ดังนั้น ถ้าจะไป ผมก็ขอไปด้วยตัวเอง”

เมื่อถามว่าไม่ได้เป็นการบริหารงานที่ล้มเหลวใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะให้มาพูดตอนนี้ก็เหมือนแก้ตัว “ผมกินเงินเดือนประชาชน ก็ทำงานตามหน้าที่ และมั่นใจว่ายังสามารถทำงาน ทำประโยชน์ และไม่ได้ทำอะไรที่เสียหาย”

ทั้งนี้หลังจากมีการรณรงค์ล่าชื่อกดดันนายอนุทินไม่นาน เฟซบุ๊ก “คนภูมิใจไทย” ของพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความระบุว่าเป็น 12 ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับความสำเร็จของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การนำของนายอนุทิน และถามว่านี่คือผลงานของความล้มเหลวจริงหรือ

ใน 12 ข้อ ก็มีทั้งเรื่องโควิด และเรื่องอื่นๆ เช่นเรื่องบรรจุข้าราชการใหม่ เพิ่มค่าตอบแทน อสม. ไปจนถึงเรื่อง ปลดล็อกกัญชา ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้เกษตรกร

ก้าวไกล เรียกร้อง อนุทินลาออก เร่งรัฐออกมาตรการคุมโควิด-เยียวยา

พรรคก้าวไกล ก็ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายอนุทิน ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน โดยระบุว่า นายอนุทินบกพร่องต่อหน้าที่ ล้มเหลวในการจัดการสถานการณ์การระบาดของโควิด และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และประคองระบบสาธารณสุขให้สามารถรองรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา เช่น กำหนดมาตรการเพื่อลดกิจกรรมทางสังคม และลดการเคลื่อนย้ายของประชาชน

ทำให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิดอย่างทั่วถึงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และ ออกมาตรการการเยียวยาให้กับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แบบถ้วนหน้า คนละ 2,000-3,000 บาท

ส.ส.รัฐบาล ร่วมขย่ม 'อนุทิน'

ขณะที่ ส.ส.รัฐบาล ก็ออกมาร่วมกดดันนายอนุทินเช่นเดียวกัน คือ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาเปิดเผยว่า พบประชาชนในเขตหลักสี่ ป่วยติดโควิด 2 ราย มีอาชีพเป็นช่างเสริมสวย ทราบผลเมื่อวันที่ 23 เม.ย. แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเตียงรักษา

โดยทราบว่า มีเจ้าหน้าที่โทรมาเสนอให้รักษาตัวที่โรงแรมย่านทองหล่อ โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คืนละ 2,800 บาท ต่อคืน อยู่รักษาตัว 14 คืน รวมเป็น 39,000บาท แต่ทางผู้ป่วยได้ปฎิเสธ และขอรอเตียงรักษาฟรี -ทั้งนี้ เวลา 10.00 น. วันนี้ (26 เม.ย.) ตนจะไปที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทวงถามหาเตียงผู้ป่วย รวมถึงการเข้าถึงระบบสาธารณสุข ต่อนายอนุทิน

พรรคเพื่อไทย เสนอรัฐเร่งแก้ปัญหา พรรคเพื่อไทยพร้อมช่วยเหลือ

ขณะที่ พรรคเพื่อไทย ก็ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลนำข้อเสนอของภาคเอกชนที่เป็นประโยชน์มาเร่งดำเนินการ ทั้งเรื่องการขนย้ายผู้ป่วย การจัดการระบบคอลเซ็นเตอร์ การเร่งทำ ICU สนามรองรับผู้ป่วยหนักที่กำลังประสบปัญหาเตียงในโรงพยาบาลรัฐไม่เพียงพอ รวมถึงการเร่งจัดหาวัคซีน -ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมนำองคาพยพทั้งหมดในการประสานเข้าช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะแถลงรายละเอียดอีกครั้งในวันนี้ (26 เมษายน 2564)

ส.ส.พลังประชารัฐสวนกลับธนาธร

ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกและหาคนอื่นมาแก้ไขปัญหาโควิด แทน เมื่อวานนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาโต้กลับ โดยบอกว่า เป็นการพูดเพื่อประโยชน์ทางการเมือง วันนี้แทนที่จะมาช่วยกันแก้ปัญหา กลับมาเล่นแต่การเมืองบนความทุกข์ร้อนของประชาชน และถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำผิดอะไรจึงต้องลาออก

และ แจกแจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์โควิดได้ ทั้งการคุมเข้มการแพร่ระบาด การจัดหาวัคซีน และล่าสุด คือ การแก้ปัญหาเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7GN-YtdnRYg