นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยผลหารือร่วมระหว่าง หอการค้าไทย กับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของบริษัทใหญ่กว่า 40 บริษัท อาทิ ซีพี, ไทยเบฟเวอเรจ, เซ็นทรัล, ยูนิลีเวอร์, ปูนซีเมนต์ไทย ฯลฯ

โดย CEO ทุกบริษัท แสดงความกังวล ที่ขณะนี้ประเทศไทย ฉีดวัคซีนไปเพียง 0.4% ของประชากรเท่านั้น ซึ่งถือว่าล่าช้ามาก เพราะสำหรับการที่จะเปิดประเทศ จะต้องฉีดให้ได้ถึง 70% ของประชากร และวัคซีนล็อตใหญ่ที่จะเริ่มเข้ามาตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ จะต้องมีการเตรียมตัว และวางแผนการกระจายวัคซีนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเครือข่ายภาคเอกชน พร้อมช่วยสนับสนุนการกระจายวัคซีนให้เกิดประสิทธิภาพ และทั่วถึงมากที่สุด โดยตั้ง 4 ทีม เข้าสนับสนุน

-ทีมแรก เข้าสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน ทั้งสถานที่ บุคลากร อาสาสมัคร และอุปกรณ์ IT นำร่องใน 10 พื้นที่ ใน กทม.

-ทีมที่ 2 เน้นการสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อสร้างความเชือ่มั่น และมาฉีดวัคซีน

-ทีมเทคโนโลยี ช่วยให้การลงทะเบียน และขั้นตอนในการฉีดที่รวดเร็ว

-ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ร่วมกับภาครัฐ และเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งประเมินว่ายังต้องการวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม อีก 30 ล้านโดส เพื่อให้ครอบคลุม 70% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งภาคเอกชนยินดีจ่ายค่าวัคซีนให้กับพนักงานของบริษัทเอง รวมแล้วเกือบ 1 ล้านราย เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับรัฐบาล

โดยหอการค้าไทยตั้งเป้า ภายในปี 64 นี้ ต้องฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ ได้ 70% และบุคลากรทางการแพทย์ ต้องได้รับการฉีดทั้งหมด 100% ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วไปในกรุงเทพฯ ต้องให้ได้อย่างน้อย 50,000 โดสต่อวัน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Zh8EHpEUF_A