จากกรณีโลกออนไลน์แห่แชร์ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก รับซื้อ จิ้งจก ขี้เกี้ยม จั้กกิ้ม ประกาศรับซื้อจิ้งจกสด ๆ กิโลกรัมละ 300 บาท และตันละ 300,000 บาท เพื่อนำตากแดด ขายเป็นจิ๊กจกอบแห้ง ส่งออกไปขายในต่างประเทศ พร้อมแนะนำวิธีการจับจิ้งจกไว้ให้คนที่สนใจจับจิ้งจกขายด้วย

ล่าสุด หลังจากมีข่าวนี้แชร์ออกไป นายรุ่งทิวา นนเข็มพรม ชาวอำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม พ่อค้ารับซื้อจิ้งจก แอดมินเพจรับซื้อจิ้งจก ขี้เกี้ยม จั๊กกิ้ม เปิดเผยว่า ตอนนี้โทรศัพท์สายแทบไหม้ มีคนสนใจจะนำจิ้งจกมาขายให้จำนวนมาก ซึ่งตนก็ตอบรับว่าให้นำมาขายเลย ตนรับซื้อจริง แต่จิ้งจกที่เอามานั้นต้องเป็นๆ แต่ถ้าหากตายแล้วก็ต้องรีบนำมาขาย เพื่อตนจะนำมาตากแดดและเอาเข้าเครื่องอบชนิดพิเศษ ที่ทางบริษัทนายทุนสั่งให้

ทั้งนี้ไม่รับซื้อแบบซากจิ้งจกที่ตายและแห้งแล้ว หากเป็นโซนทางภาคอีสานตนจะขับรถไปรับซื้อเอง แต่หากจังหวัดอื่น ถ้าส่งไปรษณีย์มาต้องรีบส่ง และสภาพที่รับซื้อต้องสมบูรณ์ ยืนยันว่ารับซื้อจริง จ่ายจริง ไม่มีอั้น ส่วนนายทุนจะเอาไปทำอะไรนั้น ตนไม่ทราบ และที่ผ่านมาทำมา 4-5 เดือนรายได้ก็หลักแสนต่อเดือน

นายรุ่งทิวาบอกว่า ตอนนี้ตนเองเป็นเจ้าแรกในไทย และในแถบประเทศแถบนี้ เพราะในฝั่งกัมพูชา ลาว และเมียนมา เองก็ยังไม่มีใครรับซื้อจิ้งจกมาอบแห้งขายเหมือนตนเอง

ส่วนขั้นตอนการทำจิ้กจกอบแห้งนั้น เมื่อเขาได้จิ้งจกสดมาแล้วก็จะเอามาเข้าเครื่องอบอบแห้ง จิ้งจก 2 กิโลครึ่ง จิ้งจกประมาณ 500-600 ตัว พออบแห้งแล้วจะมีน้ำหนักเหลือเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น โดยเมื่อได้จำนวนมากๆ 500 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน นายทุนจะเป็นคนให้สั่งให้ตนเองไปส่งขายประเทศจีน และติดต่อมาล่าสุด คือ ใต้หวัน คาดว่าจะเอาไปกินหรือเป็นยา โดยส่งขายจิ้งจกอบแห้งตันละ 1ล้าน 2 แสนบาท

ทางด้าน นางสาวนวรัตน์ แสวงศิริผล แพทย์แผนจีน แอดมินเพจ หมออีฟ ยืนงงในดงหมอจีน เปิดเผยว่า จิ้งจกอบแห้งนั้น ทางแพทย์จีน เรียกว่า ปี้หู่ สรรพคุณเป็นยาเย็น รสชาติเค็ม ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง / โรครูมาตอยด์ / โรคต่อมน้ำเหลือง แต่ ต้องไปผสมกับยาชนิดอื่นด้วย ไม่ใช่จิ้งจกอย่างเดียว ซึ่งหมอจีนจะนำไปปรุงผสมเป็นยา และเลือกจ่ายยาให้ผู้ป่วยแตกต่างกันไป

ส่วนใหญ่นำไปต้มกิน และก็ไม่ใช่คนไข้ที่ป่วยเป็นมะเร็งจะต้องกินจิ้งจกเสมอไป ต้องขึ้นอยู่กับหมอจีนที่จะจ่ายยาให้กับคนไข้ เพราะจิ้งจกบางสายพันธ์ ก็มีพิษทุกอย่างต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์

ส่วนในประเทศไทยหมอจีนไม่ค่อยนิยมใช้จิ้งจกตากแห้งสักเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยมีผู้ป่วยมะเร็งมารักษากับหมอจีน ทำให้ที่ไทยตามร้านขายยาจีนจึงไม่มีจิ้งจกตากแห้งขายเพราะไม่เป็นที่นิยมและการเก็บรักษายาก ต้องเก็บให้แห้ง ถ้าชื้นเพียงนิดเดียวจิ้งจกจะเน่าเสีย

ถ้าเทียบประเทศจีนนั้น มีผู้ป่วยจำนวนมากที่รักษาโรคมะเร็งกับหมอจีน ปี้หู่ หรือจิ้งจกตากแห้ง จึงเป็นที่ต้องการ ในประเทศจีน ทำให้มีการนำเข้าจากไทย และประกอบกับประเทศจีนก็ไม่ค่อยมีจิ้งจกด้วย เพราะเป็นเมืองหนาว แตกต่างจากประเทศไทยและประเทศในแถบนี้ ที่เป็นเมืองร้อนจิ้งจกชุกชุม

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MOVoXhKVstc