ลามไม่หยุด! ยอดผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งเกือบ 1,000 ราย สองวันติด

สังคม

ลามไม่หยุด! ยอดผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งเกือบ 1,000 ราย สองวันติด

โดย thichaphat_d

13 เม.ย. 2564

198 views

การระบาดของโควิด 19 ยังคงอยู่ในความสนใจ เริ่มจากการระบาดจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ทำให้เมื่อวาน กับวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 1,000 คน 2 วันติดต่อกัน หลายฝ่ายต่างลุ้นกันว่า หลังสงกรานต์ ตัวเลขจะเพิ่มขึ้น คงที่ หรือลดลง


ศบค.ได้เปิดเผยผู้ติดเชื้อรายใหม่ เมื่อวานนี้(12เม.ย) จำนวน 985 คน แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 980 คน มีที่มาจากระบบบริการ 634 คน จากการตรวจเชิงรุก 346 คน และเดินทางมาจากต่างประเทศ 5 คน ในการระบาดครั้งล่าสุด ได้กระจายไปหลายจังหวัดทุกภาค ทั่วประเทศ มีเพียง 4 จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ได้แก่ จ.สิงห์บุรี ระนอง สตูล และจ.ยะลา


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า โดยภาพรวม แม้จะมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่การแพร่ระบาดเริ่มชะลอตัว จึงต้องจับตาดูสถานการณ์ในช่วง 1-2 สัปดาห์ คือช่วงเทศกาลสงกรานต์ เน้นย้ำเข้มงวดในมาตรการเว้นระยะห่าง ส่วนผู้ที่ติดเชื้ออย่าปกปิดข้อมูลหรือไทม์ไลน์ เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม ในระหว่างการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค ยังได้กล่าวถึงเรื่องการทำไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อในกลุ่มสถานบันเทิง ว่า มักมีการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้การสอบสวนโรคเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงเน้นย้ำให้ทุกคนให้ความร่วมมือ อย่าปกปิดข้อมูลเด็ดขาด เพราะจะมีความผิด


ส่วนกรณีการติดเชื้อโควิดของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้ดำเนินการเหมือนกรณี "ดีเจมะตูม" ก่อนหน้านี้ ล่าสุดนายอนุทินออกบอกว่า กรณีนายศักดิ์สยาม ต่างกับดีเจมะตูม


เพราะ ดีเจมะตูม ยอมรับว่าอยู่ที่โรงแรม มีไทม์ไลน์ชัดเจน มีหลักฐานชัดเจนว่าจัดปาร์ตี้อยู่ที่โรงแรมนั้น ซึ่ งตอนนั้นมีเคอร์ฟิว มีการทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินชัดเจน ขณะที่นายศักดิ์สยาม ในไทม์ไลน์ไม่ได้อยู่ที่ Krytal Club และ Emerald ทองหล่อ 13


ส่วนที่มีข้อสงสัยเรื่องไทม์ไลน์ของนายศักดิ์สยาม ว่ามีการปกปิดข้อมูลหรือไม่นั้น นายอนุทิน บอกว่า คนที่ทำไทม์ไลน์ คือแพทย์ที่สอบสวนโรค คนไข้เป็นผู้ให้ข้อมูล หากตรวจสอบพบว่าโกหก ก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ยืนยันว่า ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำไทม์ไลน์


นอกจากเรื่องไทม์ไลน์ ยังมีประเด็นความพร้อมในการรักษา เมื่อวานนี้(12 เม.ย) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ได้ทำความเข้าใจกับภาคีเครือข่าย 5 แห่ง คือ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย รพ.กลาโหม ตำรวจ และรพ.เอกชน ถึงการแอดมิตผู้ป่วย


โดยย้ำว่า ผู้ป่วยโควิด ทุกรายต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้จะเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนก็ตาม ส่วนการบริหารจัดการเตียงรองรับผู้ป่วย ยืนยันว่า มีเพียงพอ เฉพาะในกทม.และปริมณฑล สถานพยาบาลทุกเครือข่าย รวมถึงเอกชน มีเตียงว่างรวมกัน 2,000 เตียง และยังมีโรงพยาบาลสนามเตรียมเอาไว้รองรับ ล่าสุดกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประสานกับโรงพยาบาลเอกชน จับคู่โรงแรม เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว หรือ Hospitels จัดหาเตียงได้เพิ่มอีกมากกว่า 3,900 เตียง

คุณอาจสนใจ