สมาคมภัตตาคารไทย ยันโควิดรอบใหม่ ไม่ได้เกิดจากร้านอาหาร จี้นายกฯทบทวน ไม่จำกัดขายถึง 3 ทุ่ม

เศรษฐกิจ

สมาคมภัตตาคารไทย ยันโควิดรอบใหม่ ไม่ได้เกิดจากร้านอาหาร จี้นายกฯทบทวน ไม่จำกัดขายถึง 3 ทุ่ม

โดย thichaphat_d

6 เม.ย. 2564

472 views

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้ทำหนังสือยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอความเป็นธรรมเรื่องการจัดการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานบันเทิง-กลุ่มนักเที่ยวกลางคืน ที่มีการเสนอให้ควบคุมพื้นที่สีแดงใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, สมุทรปราการ, นครปฐม และปทุมธานี


โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศษฐกิจของ SME เหมารวมธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร ให้ปิดบริการไม่เกิน 21.00 น. และห้ามขายแอลกอฮอล์


ซึ่งทางสมาคมภัตตาคารไทย ชี้แจงว่า สาเหตุไม่ได้เกิดจากร้านอาหาร เพราะทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด แต่ปัญหาเกิดจากสถานบริการเปิดเกินเวลา และมีจำนวนคนเข้าใช้บริการแออัด ไม่เว้นระยะห่าง และเจ้าหน้าที่ละเลยต่อปัญหา


ซึ่งต่อให้ร้านอาหาร ขายแอลกอฮอล์และเปิดได้ถึง 23.00 ก็ไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรค แต่ต้องมารับผลกรรมจากการจำกัดเวลาปิดก่อน 21.00 น. และห้ามขายแอลกอฮอล์นั้น ถือเป็นมาตราการที่เหวี่ยงแหเป็นวงกว้างเกินไป ซึ่งจะมีผลกระทบอันใหญ่หลวง พร้อมความเสียหายทีจะไม่มีทางที่รัฐบาลจะรับผิดชอบไหวอย่างแน่นอน


หากมีคำสั่งปิดเวลา 21.00 น.อีกครั้ง ทางภาคธุรกิจร้านอาหาร จำเป็นต้องปลดพนักงานออกทั้งหมดทันที ทั้งๆที่ผ่านมา สองเดือนและก่อนการระบาดรอบสอง รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีก็เห็นอยู่แล้วว่า ภาคธุรกิจร้านอาหารที่ได้กลับมาเปิด สามารถจ้างพนักงานกลับเข้าระบบประกันสังคมได้เร็วแค่ไหน รวมทั้งจ่ายชำระค่าประกัน สังคมและภาษีมูลค่าเพิ่ม เข้าคลังได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน -ทางสมาคมภัตตาคารไทยจึงใคร่ขอเสนอ


1.ให้ท่านนายกรัฐมนตรีและทีมศบค.มองและควบคุมให้ถูกต้องถูกจุด และมีความเป็นธรรมต่อธุรกิจ ร้านอาหารด้วยโดยยังคงให้ร้านอาหารนั่งได้ถึงเวลา 23:00 น. และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ดังเดิม โดยปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิมของสาธารณสุขที่เคยกำหนดไว้เป็นอย่างดีและร้านอาหาร ก็ได้ปฏิบัติตามกันมาอย่างดีเคร่งครัด


2. หากการแพร่ระบาดรุนแรงเกินกว่าจะยับยังได้ ขอให้ ศบค.มีกำหนดเวลาที่จะใช้มาตรการดังกล่าว

3. การจัดการกับต้นเหตุปัญหา โดยการปิดพื้นที่เป็นสิ่งที่ภาคเอกชนเห็นด้วย ผู้


ประกอบการร้านอาหารมั่นใจเกิน100% ว่าไม่ได้เป็นและจะไม่เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโควิด เนื่องจากมูลเหตุที่ธุรกิจภาคร้านอาหารและภัตตาคารไม่ได้เป็นผู้ก่อ และเพื่อเป็นการประคับประคองระบบเศรษฐกิจภาค SME ธุรกิจร้านอาหารและพนักงาน ลูกจ้างให้มีชีวิตอยู่ได้ และยังสามารถควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิดควบคู่กันไป


สมาคมภัตตาคารไทยขอความกรุณาจากท่านนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าใจ เห็นใจและโปรดให้ความเป็นธรรม แก่ร้านอาหาร-ภัตตาคารจำนวนหลายหมื่นราย และสตรีทฟู้ดในพื้นที่อีกกว่าแสนรายที่จะต้องได้รับผลกระทบแน่นอน

คุณอาจสนใจ

Related News