สถานการณ์ในเมียนมา ยังคงมีประชาชน ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง และได้มีการระดมกำลังสร้างแนวกั้น หรือ บังเกอร์ เพื่อสกัดกั้น ปฎิบัติการยิงสลายการชุมนุมของกองกำลังเมียนมา

แม้ว่าจะมีการรายงานผู้เสียชีวิตจากการสลายชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหารแบบรายวันในเมียนมา แต่ก็ยังมีประชาชนจำนวนมาก ในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมไปถึง นครย่างกุ้ง ออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนอย่างสงบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงเพลงต่อต้านการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาลงจากอำนาจ และให้ส่งคืนประชาธิปไตย ให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วย

ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ช่วยกันทำทรายบรรจุถุง ซึ่งจะนำไปทำเป็นบังเกอร์ใหม่ เพื่อสกัดและขัดขวาง ให้ปฏิบัติการของทหารและตำรวจ ที่พยายามจะยิงสลายการชุมนุม เพื่อให้ทำงานได้ช้าลง ขณะเดียวกันมีผู้ประท้วงบางคน ถืออาวุธซึ่งเชื่อว่าเป็นปืนลม อยู่ที่บริเวณจุดตั้งบังเกอร์ รับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น

นับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายงานพลเรือนถูกสังหารจากการกวาดล้างการชุมนุมประท้วง แล้วราว 557 คน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 46 คน และมีผู้ถูกจับกุมอีก 2 พัน 751 คนแล้ว

ด้านกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ เคเอ็นยู ได้ออกแถลงการณ์ ประณามปฎิบัติโจมตีทางอากาศ ของทางการเมียนมาอย่างหนักหน่วง ในช่วงวันที่ 27 ถึง 30 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย และยังนำไปสู่ การอพยพของชาวบ้าน ราว 12,000 คน เพื่อหนีการโจมตี บางก็ไปอาศัยในป่า , ในถ้ำ หรือไม่ก็ข้ามพรมแดนเข้ามาอยู่ที่ฝั่งไทย จนกลายเป็นวิกฤตด้านมนุษยชน