เมื่อวานนี้ (1 เมษายน) เป็นวันครอบรอบ 2 เดือนการรัฐประหาร ล่าสุดผู้ชุมนุมที่เมืองมัณฑะเลย์ ร่วมกันเผาหนังสือรัฐธรรมนูญฉบับปี 2008 หลังจากที่คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพเมียนมา ประกาศยกเลิกใช้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาเสนอข้อตกลงหยุดยิงฝ่ายเดียวกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ เป็นเวลา 1 เดือน

โดยเมืองมัณฑะเลย์ ผู้ชุมนุมได้ฉีกหนังสือรัฐธรรมฉบับปี 2008 ที่ร่างขึ้นมาโดยกองทัพเมียนมาและจุดไฟเผา หลังจากที่ คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพเมียนมา ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว และบังคับใช้กฎบัตรแห่งสหพันธรัฐประชาธิปไตย

ขณะเดียวกันเมืองทวาย กลุ่มผู้ชุมนุม ที่ประกอบไปด้วย วิศวกร, คุณครู, และนักศึกษา ยังคงออกมาเดินขบวนประท้วงบนท้องถนน โดยเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซานซูจี ส่วนที่ย่างกุ้ง ชาวเมียนมา ร่วมร้องเพลงไว้อาลัยให้กับผู้ชุมนุมกว่า 500 คน ที่เสียชีวิตจากการใช้ความรุนปราบปรามการชุมนุมของกองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมา โดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง (AAPP) ระบุว่า จนถึงขณะนี้ มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตถึง 536 คน

ด้านสถานการณ์สู้รบระหว่างกองทัพเมียนมา กับกองกำลังชาติพันธุ์ต่าง ๆ มีท่าทีตึงเครียด ล่าสุด ทางรัฐบาลเมียนมา จะออกมาประกาศข้อเสนอหยุดยิง กับกองกำลังชาติพันธุ์ต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ไปถึงวันที่ 30 เมษายน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการรักษาสันติภาพ แต่มีข้อยกเว้นกับกลุ่มผู้ชุมนุม

ขณะนี้ ยังไม่มีท่าทีตอบกลับจากทางด้านกองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ออกมา โดยเฉพาะ กองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และกองกำลังของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ทางตอนใต้ของประเทศ ก่อนหน้านี้ ได้ออกมาประกาศเดินหน้าต่อสู้กับกองทัพเมียนมา ทูตยูเอ็นประจำเมียนมาร้องขอให้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ดำเนินมาตรการที่เด็ดขาดเพื่อยุติการใช้ความรุนแรง พร้อมกับเตือนว่าเมียนมากำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการเมือง และอาจกลายเป็นรัฐล้มเหลวในไม่ช้านี้