เรื่องของดีเจเป้ วิศวะ ล่าสุดทำเอาหลายคนตกใจและเป็นห่วง หลังดีเจเป้ ได้โพสต์อินสตาแกรมขณะนั่งอยู่ในรถเข็น ที่โรงพยาบาล พร้อมเขียนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า “วันพุธที่ 24 มี.ค. 2564 หลังจากหาย จากท้องเสียมา 3 วัน ตื่นเช้าพร้อมมาจัดรายการตามปกติ เวลาประมาณ 9โมงกว่าๆ เริ่มเห็นเงาดำในตาซ้ายชัดขึ้น 10โมงกว่าๆ ในระหว่างจัดรายการ ในตาซ้ายเห็นเป็นเส้นดำๆ หนาๆ โทรติดต่อโรงพยาบาล จะเข้าไปตรวจดวงตา 11โมงกว่าๆ เริ่มมีจุดดำเล็กๆ กระจายเต็มตา เที่ยงกว่าๆ จุดดำเล็กๆ มีเพิ่มมากขึ้น

จัดรายการเสร็จ บ่ายโมงกว่า ถึงโรงพยาบาล เช็คสายตาเบื้องต้น เริ่มมองไม่เห็นตัวเลข และการชูนิ้วมือจากพยาบาล เมื่อเข้าตรวจตากับคุณหมอชัยรัตน์ พบว่า จอประสาทตาฉีกขาด เนื่องจากเลือดออกเต็มตา ไม่สามารถยิงเลเซอร์รักษาได้ ต้องพักตาให้เลือดจางลง โดยกรอกตาให้น้อยที่สุด นั้นหมายความว่า ต้องหลับตาอยู่นิ่งๆ และนอนหัวสูง ส่วนวิธีรักษาอีกทางคือการผ่าตัด ... ตัดสินใจพักตา รอยิงเลเซอร์รักษา ในช่วงที่พักรักษาดวงตา หัวหน้าพยาบาลโทรมาสอบถามอาการทุกวัน ซึ่งการมองเห็นดีขึ้น เลือดจางลง นัดตรวจทำการรักษา เสาร์ที่ 27 มี.ค 2564 ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 #วันที่เป้ป่วย”

ล่าสุดเมื่อวาน (31 มี.ค.64) นักข่าวของเราได้โทรศัพท์ไปสอบถามอาการของดีเจเป้ ปรากฏว่า ดีเจเป้ ตัดสินใจผ่าตัดในวันที่คุณหมอนัดยิงเลเซอร์ (วันเสาร์ที่ 27 มี.ค.) เนื่องจากจอประสาทตาที่ฉีกขาด แผลมันกว้างขึ้น เพราะมีน้ำเข้าไปเซาะที่รอยแผล ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่าถ้าทำเลเซอร์ ก็จะยิ่งทำให้รอยฉีกขาดมันกว้างออกไปอีก และจะมีผลทำให้ดวงตาบริเวณที่ฉีกขาดทั้งหมดสูญเสียการมองเห็น ก็จะให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นแคบลง คุณหมอก็เลยแนะนำว่าควรผ่าตัดดีกว่า

แต่คุณหมอก็บอกอีกว่า การผ่าตัดรักษาจอประสาทตา ก็จะมีผลทำให้เป็นต้อหลังการผ่าตัด ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นต้อชนิดใด และจะต้องกลับมาผ่าตัดต้ออีกครั้งนึง คุณหมอเลยแนะนำต่อว่า ถ้าผ่าตัดรักษาจอประสาทตาที่ฉีกขาดแล้ว ก็ให้ผ่าตัดต้อไปเลย จะได้จบปัญหาเรื่องต้อ และตาข้างที่เป็น ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องต้ออีกเลย

ตอนนั้น เป้สารภาพเลยว่า เครียดมาก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจในวันนั้นและเข้าผ่าตัดทันที ทั้งผ่าตัดรักษาจอประสาทตา และผ่าตัดต้อ ซึ่งใช้เวลาในห้องผ่าตัดราว 1 ชั่วโมงกว่า ซึ่ง เป้บอกว่าเป็น 1 ชั่วโมงที่ยาวนานมาก ยอมรับว่าใจเสีย กลัวตาบอด และอึดอัดมาก เพราะในชีวิตก็ไม่เคยผ่าตัดอะไรเลย

ซึ่งตอนนี้ เป้ได้กลับมาพักที่บ้านแล้ว โดยคุณหมอยังให้ปิดตาข้างที่ผ่าตัดไว้ก่อน และห้ามไม่ให้โดนน้ำเลย ส่วนการนอน คุณหมอให้นอนได้แค่ 2 ท่า คือ นอนคว่ำหน้า และนอนตะแคง พี่เป้ บอกว่าตะแคงนอนจนหูช้ำหมดแล้ว ตอนนี้ใช้ตาขวาเพียงข้างเดียวในการดำเนินชีวิต ส่วนตาข้างซ้ายที่ผ่าตัด ตอนนี้ยังมองเห็นได้เพียงลางๆ เนื่องจากตอนผ่าตัดคุณหมอได้อัดแก๊สเข้าไปในตา ระหว่างนี้ก็ต้องรอให้แก๊สจางไปเอง โดยอาจจะใช้เวลานานถึง 2 เดือน แต่คุณหมอการันตีว่าจะหายเป็นปกติและกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิมแน่นอน ซึ่งตอนนี้คุณหมอก็ขอให้อยู่นิ่งๆ ประมาณ 10 วันและจะขอตรวจอีกทีว่าอาการดีขึ้น สามารถกลับไปทำงานได้มั้ย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้จอประสาทตาฉีกขาด คุณหมอก็บอกว่าเป็นอาการร่วมของคนที่เป็นเบาหวาน ความดัน และคนที่สายตาสั้นมากๆ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีโอกาสที่จอประสาทตาฉีกได้ แต่เป้ บอกว่าตนเองไม่ได้เป็นทั้ง เบาหวาน ไม่ได้เป็นทั้งความดัน แต่มีอาการสายตาสั้นประมาณ 100 กว่าๆ และระยะหลังเริ่มมีอาการสายตายาวด้วย แต่ตนเองเป็นคนไม่ค่อยชอบใส่แว่นสายตาซักเท่าไหร่ ชอบใช้สายตาปกติมากกว่า ก็เลยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอาการท้องเสียหนักๆ 3 วันก่อนที่จะเริ่มมีอาการปวดตารึเปล่า เพราะตอนท้องเสีย ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยมาก ไม่ค่อยนอน บวกกับอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ก็นอนดูซีรีส์ อาจจะใช้สายตาเยอะไป ก็เลยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้รึเปล่า

ส่วนตาอีกข้าง คุณหมอก็บอกว่าอาจจะเป็นได้เหมือนกัน หากดูไม่ดูแลตัวเองให้ดี เป้เลยอยากบอกข้อมูลทุกคนได้ระมัดระวังกัน ขอให้เป้กลับมามองเห็นไวๆ ด้วย

ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/U2jP_YBkVw4