ไร้วี่แวว! กรมอุทยานฯ แจงดราม่าพรากลิงแสม ปัดคืน ‘ก็อตซิลลา’ กลับอ้อมอกเจ้าของเดิม

สังคม

ไร้วี่แวว! กรมอุทยานฯ แจงดราม่าพรากลิงแสม ปัดคืน ‘ก็อตซิลลา’ กลับอ้อมอกเจ้าของเดิม

โดย nicharee_m

31 มี.ค. 2564

20.2K views

วันที่ 31 มี.ค.2564 รายการโหนกระแสพูดคุยกรณีดราม่าก็อตซิลล่า เจ้าลิงแสมอ้วน ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับมาดูแลต่อจากเจ้าของ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ #saveก็อตซิลล่า และมองว่าเป็นการพรากสัตว์จากเจ้าของที่เลี้ยงดูมันมาอย่างดี


ในรายการ เจ้าของเดิมเล่าจุดเริ่มต้นที่รับเจ้าก็อตซิลล่ามาดูแล เนื่องจากเมื่อ 3 ปีก่อน กู้ภัยร่มไทรแม่ของก็อตซิลล่าประสบอุบัติเหตุรถชน และมีลูกลิงหลุดออกมา จึงประกาศหาผู้อุปการะแต่ต้องมีการดำเนินเรื่องอย่างถูกกฎหมาย ทางครอบครัวจึงได้โทรประสานขอคำขอรับเลี้ยงกับทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และทางเจ้าหน้าที่ให้คำตอบว่า ให้เลี้ยงดูได้โดยไม่ต้องไม่มีใบอนุญาต แต่ต้องไม่เป็นการสร้างความเดือดร้อนและเกิดภาระแก่ผู้อื่น


ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้เลี้ยงดูเจ้าก็อตซิลล่าอย่างใกล้ชิดเหมือนลูกคนหนึ่ง และให้อาหารคล้ายกับมนุษย์ พร้อมกับควบคุมปริมาณ แต่เนื่องด้วยฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น อาจมีส่วนทำให้น้ำหนักขึ้น และตลอดระยะเวลาที่เลี้ยงดูมานานกว่า 3 ปี 9 เดือน ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาสั่งห้าม หรือตักเตือนว่าห้ามเลี้ยง


ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า ในกรณีนี้เมื่อประชาชนพบสัตว์ป่าพลัดหลงหรือได้รับบาดเจ็บ หากได้ให้ความช่วยเหลือหรือจับไว้ได้แล้ว จะต้องนำสัตว์ป่านั้นไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจในท้องที่นั้น เพื่อแสดงเจตนาความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ต้องการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นไว้ เนื่องจากตามกฎหมายผู้ไม่ได้รับอนุญาตจะไม่สามารถครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองได้ และโทรศัพท์แจ้งสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯออกไปรับมาดูแล ในการรับสัตว์ป่าพลัดหลงหรือได้รับบาดเจ็บนั้นกรมอุทยานฯจะมีทีมงานนำโดยสัตวแพทย์พร้อมอุปกรณ์ของกรมไปดำเนินการรับ หรือหากประชาชนสะดวกก็สามารถนำมาส่งได้ที่กรมอุทยานฯได้เช่นกัน


นอกจากนี้ทางกรมอุทยานฯ ตอบถึงกรณีที่เจ้าของบอกว่า ได้โทรประสานขอรับเลี้ยงดูกับหน่วยงานเมื่อ 3 ปีก่อน ยืนยันว่า ได้ตรวจสอบแล้วไม่มีการประสานงานขอรับเลี้ยงดูลิงแสมแต่อย่างใด กรณีเจ้าก็อตซิลล่า เกิดจากสื่อต่างประเทศและสื่อของไทยลงข่าว จึงเป็นความรับผิดชอบของกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จึงต้องเดินทางไปตรวจสอบดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและดูแลเรื่องสุขภาพของสัตว์


อย่างไรก็ตามด้าน มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตว์แพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) เผยว่า ยังไม่สามารถให้ลิงแสมกลับคืนเจ้าของเดิมได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยทางสัตวแพทย์จะทำการปรับอาหารและโภชนาการ และในเรื่องของฮอร์โมน ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรับพฤติกรรม และยินดีให้เจ้าของสามารถเข้าไปเยี่ยมได้

คุณอาจสนใจ

Related News