เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งมีชื่อว่า "เอฟเวอร์ กีฟเว่น" (Ever Given) สัญชาติปานามา ดำเนินการโดยบริษัทขนส่งเอฟเวอร์กรีน ที่มีสำนักงานใหญ่ไต้หวัน

เรือสินค้าลำนี้เดินทางมาจากจีนมุ่งหน้าไปเนเธอร์แลนด์ โดยระหว่างที่แล่นจากทะเลแดงเข้าสู่คลองสุเอช เพื่อจะไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน เผชิญทั้งลมแรงและพายุทราย ที่ทำให้ทัศนวิสัยย่ำแย่ เรือเกิดสูญเสียการควบคุมจนแล่นขวางคลองและเกยตื้น

เรือเอฟเวอร์ กีฟเว่น ยาวประมาณ 400 เมตร เทียบเท่าตึกเอ็มไพร์ม สเตท หรือสนามฟุตบอล 4 สนาม กว้าง 59 เมตร ระวางขับเคลื่อน 2 แสน 2 หมื่น 4 พันตัน คลองสุเอชลึก 24 เมตร ยาว 193 กิโลเมตร กว้าง 205 เมตร สามารถย่นระยะทางการเดินเรือจากเอเชีย-ยุโรป

เหตุการณ์นี้ทำให้การจราจรทางน้ำคลองสุเอชติดขัดอย่างหนัก และเป็นครั้งแรกในรอบ 150 ปี ที่มีเรือสินค้าขนาดใหญ่ขวางคลองสุเอช ซึ่งตอนนี้การขนส่งทางเรือของโลกกำลังประสบภาวะชะงักงัน เรือสินค้ากว่า 150 ลำไม่สามารถแล่นผ่านไปได้ การขนส่งสินค้าทั้งอุปโภค บริโภค รวมไปถึงการขนส่งน้ำมันได้รับผละกระทบ

เจ้าหน้าที่อียิปต์กำลังวางแผนที่จะใช้เรือลากจูงประมาณ 10 ลำ เพื่อดึงเรือสินค้า และเปิดทางให้การสัญจรทางน้ำเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ต้องรอกระแสน้ำช่วยผลักดันเรือให้เคลื่อนที่ไปได้ คลองสุเอช เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่มีสัดส่วน 12 เปอร์เซนต์ของการขนส่งทั่วโลก เชื่อมต่อทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนและทะเลแดง หากอียิปต์ยังไม่สามารถนำเรือที่ขวางคลองสุเอชออกไปได้ เรือสินค้าต่างๆก็จะต้องแล่นเปลี่ยนเส้นทางอ้อมไปทางแหลมกู๊ดโฮปของแอฟริกา

เมื่อปีที่แล้วมีเรือเกือบ 1 หมื่น 9 พันลำที่แล่นผ่านคลองสุเอช หรือเฉลี่ยวันละ 51.5 ลำ อียิปต์มีรายได้จากการให้บริการเส้นทางขนส่งทางน้ำผ่านคลองสุเอช 5 พัน 600 ล้านดอลลาร์