กองทัพเมียนมา ได้ออกมากล่าวหาผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารว่า เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงและยังก่อเหตุวางเพลิงด้วย การกล่าวหานี้เกิดขึ้นขณะที่ยอดผู้ชุมนุมที่เสียชีวิต จากการปราบปรามของกองทัพจนถึงวันนี้ สูงถึง 261 คนแล้ว

วันนี้ นาย จอ มิน ตุน (Zaw Min Tun) โฆษกของรัฐบาลทหารเมียนมา ออกมากล่าวหาผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารว่าใช้ความรุนแรง และยังก่อเหตุวางเพลิงตามสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ การแถลงระบุว่า จนถึงขณะนี้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตอย่างน้อย 164 คน ซึ่งสวนทางกับตัวเลขของสมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง (AAPP) ที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมแล้วอย่างน้อย 261 คน

จอ มิน ตุน ยังได้กล่าวหาสื่อมวลชนว่านำเสนอข่าวเท็จ ที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการปิดกั้นสื่อ เพื่อป้องกันการปลุกระดม อีกทั้งเขายังได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่บอกว่ามีการโกงการเลือกตั้งเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเปิดเผยคลิปวิดีโอของประชาชนที่บอกว่าพวกเขาได้รับเงินจากตัวแทนของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี ของนางอองซานซูจี

และเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ยังคงเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่นครย่างกุ้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเมียนมา ยังคงเดินหน้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในช่วงกลางดึก ที่ย่านธาเกตา (Thaketa) เกิดเหตุไฟไหม้และเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งเดินไปมาบนท้องถนน ใกล้กับจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ดี ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมถึงเกิดไฟไหม้ ซึ่งมีรายงานว่า ผู้ชุมนุมเสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 8 คน ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็กชายวัย 15 ปี 1 คน

ขณะที่ สหภาพยุโรป ยังได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และการปรามปราบผู้ชุมนุม จำนวนทั้งหมด 11 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาทหารสูงสุดของเมียนมา นอกจากนี้ อียู ยังระบุว่า อาจมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับธุรกิจที่ดูแลโดยกองทัพเมียนมา

ด้านสหรัฐอเมริกา ก็ยกระดับมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และองค์กรต่าง ๆ ของเมียนมาเพิ่มเติม โดยในรายชื่อผู้ที่ถูกคว่ำบาตรใหม่นี้ ประกอบไปด้วย พลตำรวจเอก ถั่น หล่าย (Than Hlaing) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมียนมา, พลเอก อ่อง โซ (Aung Soe) ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพเมียนมา รวมถึงหน่วยงานด้านทหารของเมียนมา ทั้งกองพลทหารราบเบาที่ 77 และกองพลทหารราบเบาที่ 33

โดยระบุว่าทหารจากกองพลทหารราบเบาที่ 33 ใช้กระสุนจริงยิงใส่ฝูงชนที่เมืองมัณฑะเลย์ นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม