ชาวบ้านแม่สามแลบ วอนรัฐบาล นำ "ข้าวสารปริศนา" ออกจากพื้นที่ด่วน หวั่นเกิดเผชิญหน้าทหารกะเหรี่ยง-ทหารเมียนมา

สังคม

ชาวบ้านแม่สามแลบ วอนรัฐบาล นำ "ข้าวสารปริศนา" ออกจากพื้นที่ด่วน หวั่นเกิดเผชิญหน้าทหารกะเหรี่ยง-ทหารเมียนมา

โดย pattraporn_a

23 มี.ค. 2564

352 views

ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวสาร 700 กระสอบ ที่วางอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน ตำบลแม่สามแลบ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเป็นการซื้อขายผ่านพ่อค้าตามหลักมนุษยธรรม ขออย่าพาดพิงว่าไทยสนับสนุนรัฐประหารของเมียนมา แต่ชาวบ้านแม่สามแลบ ขอให้ชี้แจงให้ชัดว่าเป็นเสบียงของใคร และขอให้นำออกจากพื้นที่ เพราะหากเป็นของทหารพม่า อาจส่งผลกระทบ กรณีทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือ KNU แสดงการคัดค้านการส่งเสบียงดังกล่าว และชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีการซื้อขายสินค้าผ่านจุดผ่อนปรนบ้านแม่สามแลบมา 1 ปีแล้ว


กองข้าวสาร 700 กระสอบ รวมทั้งแกลลอนน้ำมัน ยังคงวางอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังมีการขนเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม และวางอยู่ด้านหลังจุดตรวจบ้านแม่สามแลบ ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนชายแดน ที่อยู่ตรงข้ามรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา และมีฐานทหารพม่าตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่ไกลจากกองข้าวสาร ที่มีแม่น้ำสาละวินเป็นเส้นกันพรมแดน


ชาวบ้านแม่สามแลบ ที่มีอาการหวาดกลัวในการให้ข้อมูล บอกกับข่าว 3 มิติ ยอมรับว่า จนถึงขณะนี้อยากทราบให้แน่ชัดว่า กองข้าวสารจำนวนนี้เป็นของใคร หากเป็นของทหารพม่าจริง ตามที่มีการตั้งข้อสงสัย ชาวบ้านก็เป็นห่วงความปลอดภัย เพราะ ทหาร สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU ประกาศคัดค้านการส่งเสบียงให้กับทหารพม่า ในพื้นที่ของกองพล 5 และหากมีการปะทะกันจะส่งผลกระทบกับชาวบ้านโดยตรง จึงอยากให้นำข้าวสารเหล่านี้ออกไปจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด


ข่าว 3 มิติตรวจสอบจากชาวบ้านให้การตรงกันว่า เวลาประมาณ ตี 5 ของวันที่ 20 มีนาคม รถบรรทุก 3 คันที่สอบถามระบุว่ามาจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นำข้าวสารมาถึงที่บ้านแม่สามแลบ แต่นำรถขนาดใหญ่เข้ามาริมแม่น้ำไม่ได้ จึงนำใส่รถกระบะขนมายังจุดผ่อนปรน โดยมีชายพูดภาษาเพื่อนบ้านมาด้วย ทำให้ชาวบ้านเป็นกังวลเรื่องสถานการณ์โควิด และไม่รู้ว่าข้าวเหล่านี้จะนำไปไหน จึงได้มีการร้องเรียนผ่านสื่อ ซึ่งหากจะเป็นการซื้อขายชายแดน ตามที่ กองทัพภาคที่ 3 ระบุว่า เป็นการที่ทหารพม่าประสานงานซื้อผ่านกลไกล คณะกรรมการชายแดนหรือ TBC ทำไมถึงทำได้ เพราะชาวบ้านไม่สามารถเดินเรือขายสินค้าในแม่น้ำสาละวิน ผ่านจุดผ่อนปรนมานาน 1 ปี ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปีที่แล้ว จากมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จึงอยากให้รัฐบาลไทยชี้แจงให้ชัดเจน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าวสารเหล่านี้จะนำมาเองโดยชาวบ้าน เพราะเป็นสินค้าจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยเข้ามาในพื้นที่


ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ว่า ภาพที่ออกมา จริงๆแล้วเป็นคนละกรณีกันทั้งหมด เพราะพื้นที่บริเวณนี้ เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว พื้นที่ดังกล่าวมีฐานทหาร มีประชาชนชาวเมียนมา มาอยู่บนเส้นเขตแดน อยู่บนพื้นที่สูง จนมีการเจรจาผ่านกลไกที่มีอยู่ให้ขยับไปข้างล่างทั้งหมด ทำให้การสัญจรไปมาในฝั่งตรงข้ามเป็นไปได้ยาก ส่วนใหญ่จึงมีการเข้ามาซื้อของในฝั่งไทย แต่ตกลงกันว่าต้องไปอยู่พื้นที่ข้างล่างให้หมด ซึ่งทางฝั่งเมียนมาก็ยินยอม แต่ขอสั่งอาหารจากฝั่งไทย ซึ่งเป็นเรื่องของมนุษยธรรม และความมั่นคงตามแนวชายแดน เพราะพื้นที่เขตแดนไม่ชัดเจน และการสั่งซื้อดังกล่าวเป็นการสั่งซื้อโดยตรงจากพ่อค้า จึงอย่าให้เป็นประเด็น หรืออย่ามาพาดพิง ว่าไทยสนับสนุนรัฐบาลเมียนมา


แต่สำหรับพื้นที่ ที่กองข้าวสารตั้งอยู่ ฝั่งตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ไม่มีหมู่บ้านชาวพม่า มีเพียงฐานทหารพม่า ส่วนหมู่บ้านที่ตั้งน้ำสาละวิน มีเพียงผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง ที่ค่ายอพยพอิตูท่า ห่างขึ้นไปประมาณ 40 กิโลเมตร และพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงบริเวณนี้อยู่ในคุ้มครองของกองพล 5 KNU ที่ยังคงมีการปะทะกับทหารพม่าด้วย


และวันนี้ (22 มี.ค.) ก่อนที่ ทีมข่าว 3 มิติจะมาถึง ในช่วงประมาณ 16.00 น.มีภาพชายกลุ่มหนึ่งนั่งเรือข้ามฝั่งมาที่บ้านแม่สามแลบ มาที่กองข้าวและมาซื้อของที่ด่าน ชาวบ้านจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและชี้แจงถึงที่มาของข้าวรวมทั้งนำข้าวกองนี้ออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด

คุณอาจสนใจ