ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดวิทยาลัยเสริมทักษะ พระภิกษุ สามเณร จ.พระนครศรีอยุธยา

พระราชสำนัก

ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดวิทยาลัยเสริมทักษะ พระภิกษุ สามเณร จ.พระนครศรีอยุธยา

โดย weerawit_c

21 มี.ค. 2564

102 views

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง วัดนิเวศธรรมประวัติ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทอดพระเนตรโครงการอนุรักษ์และพัฒนา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร พร้อมทั้งทรงเปิดวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร ในโอกาสนี้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย เมื่อประทับเรือยนต์พระที่นั่ง ถึงยังท่าเทียบเรือ หน้าวัดนิเวศธรรมประวัติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา , รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนข้าราชการทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ


จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังพระอุโบสถ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียน เครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง บูชาพระพุทธนฤมลธรรโมภาส พระประธานพระอุโบสถ ที่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ทรงออกแบบ ให้มีพุทธลักษณะคล้ายสามัญชน ผสมผสานกันระหว่างศิลปะแบบประเพณีนิยม กับศิลปะแบบตะวันตก สำหรับวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามพระราชวังบางปะอิน โดยพระอุโบสถ และอาคารประกอบต่างๆ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สร้างขึ้น เมื่อปี 2421 สำหรับทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน


ในการนี้ทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์วัดนิเวศธรรมประวัติ ซึ่งประกอบด้วยอาคารจัดแสดง 3 อาคาร ได้แก่ อาคารพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว , อาคารพิพิธภัณฑ์ตำหนักสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และอาคารพิพิธภัณฑ์ตาลปัตร (หอกลอง)


จากนั้นทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อาคารชั้นเดียว ที่แต่เดิมเป็นศาลาการเปรียญ ต่อมาได้รับการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุ อันเป็นของซึ่งถวายเป็นเครื่องพุทธบูชา รวมถึงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ อาทิ พระพุทธรูป ตู้พระธรรม หีบพระธรรม ธรรมาสน์ เครื่องสังเค็ดเครื่องหินอ่อน เครื่องมุก เครื่องถม เครื่องแก้ว ตะเกียง เป็นต้น ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้พระราชทานพระดำริให้ดำเนินโครงการอนุรักษ์และพัฒนา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี และในโอกาส สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี 2555 ดำเนินงานได้ยึดรูปแบบและแผนผังเดิม ภายใต้แนวคิด อนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปะสถาปัตยกรรม และภูมิทัศน์ รวมทั้งอนุรักษ์ และส่งเสริมสภาพแวดล้อม ให้เหมาะสมสอดคล้องในพื้นที่พระราชวัง ตลอดจนกำหนดแนวกิจกรรมให้เหมาะสม กับความเป็นศาสนสถานที่ตั้งอยู่ใกล้พระราชวัง


ต่อจากนั้นทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรการจัดแสดงตาลปัตร ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ตาลปัตร (หอกลอง) ที่จัดแสดงตาลปัตร และพัดรอง ซึ่งเป็นของถวายเป็นพุทธบูชา และที่ระลึกในโอกาสสำคัญต่างๆ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และจัดแสดงพัดรองที่ระลึก ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ถวายแด่พระราชาคณะ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รวมถึง พัดรอง ฝีพระหัตถ์ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ที่ทรงออกแบบและทรงเขียนตาลปัตร พัดรอง สำหรับใช้ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ สำหรับ ตาลปัตร หรือ พัดของพระสงฆ์ เป็นเครื่องสำหรับพระภิกษุถือบังหน้าในพิธีกรรม เช่นในเวลาให้ศีล และแสดงธรรม ส่วนพัดรอง คือชื่อเรียกเฉพาะพัดที่ทำขึ้นเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีสำคัญ และงานบุญต่างๆ


จากนั้นประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาพิธี หน้าอาคารวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร ทั้งนี้เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดำรงพระอิสริยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ณ วัดแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันรวมถึง 6 ครั้ง


เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงยังพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ บูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล แล้วทรงเปิดอาคารวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร ซึ่งทางวัดฯ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ และกรมศิลปากร จัดตั้งขึ้น ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ในปี 2555 เปิดการเรียนการสอนครั้งแรก ในปีการศึกษา 2559 เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ที่เป็นพระภิกษุ สามเณร ได้ศึกษาต่อและเป็นการขยายโอกาส ด้านอาชีวศึกษา ให้กับพระภิกษุ สามเณร ปัจจุบันเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ , ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น ใน 6 สาขาวิชา ประกอบด้วย ช่างเชื่อมโลหะ, เทคโนโลยีสารสนเทศ ,ช่างยนต์ ,เทคนิคอุตสาหกรรม ,เครื่องกล ,คอมพิวเตอร์เกมส์ และแอนิเมชั่น มีพระภิกษุ สามเณรนักเรียน จำนวน 109 รูป โดยร่วมมือกับสถานศึกษา และสถานประกอบการ เพื่อแลกเปลี่ยนบุคลากร และองค์ความรู้ ในการพัฒนาพระภิกษุ สามเณรนักเรียน ให้มีความเชี่ยวชาญ ก้าวทันเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ควบคู่กับการเป็นศาสนทายาทที่ดี มีศีล มีธรรม


จากนั้น ทรงปลูกต้นจัน พันธุ์ไม้โบราณ แล้วทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการ ภายในอาคารวิทยาลัยฯ ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานพระบรมราชูปถัมถ์ แก่โครงการอนุรักษ์และพัฒนาวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ,การพัฒนาระบบการศึกษา ของพระภิกษุ-สามเณร โดยทรงมีพระบรมราโชบายด้านการศึกษา เน้นการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง, มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงมีคุณธรรม, มีงานทำ มีอาชีพ และเป็นพลเมืองที่ดี นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการความเป็นมาของวิทยาลัยฯ การจัดการเรียนการสอน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้น้อมนำพระบรมราโชบาย ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม กับสามเณรนักเรียน นักศึกษา อาทิ คอมพิวเตอร์เกมและแอนิเมชัน ที่เน้นการเรียนการสอน เกี่ยวกับการสร้างสื่อแอนิเมชั่นในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ กับงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก

Related News