กระแสเหยียดเอเชียในสหรัฐฯคุกรุ่น หลังการอุบัติของโควิด-19 ชาวโลกร่วมเรียกร้องยุติความรุนแรง

ต่างประเทศ

กระแสเหยียดเอเชียในสหรัฐฯคุกรุ่น หลังการอุบัติของโควิด-19 ชาวโลกร่วมเรียกร้องยุติความรุนแรง

โดย panwilai_c

20 มี.ค. 2564

53 views

นับตั้งแต่ที่โควิด-19 แพร่ระบาดในสหรัฐฯมากว่า 1 ปี กระแสความเกลียดชังที่มีต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น ขณะที่เหตุกราดยิงร้านสปา 3 แห่งในรัฐจอร์เจีย ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยิ่งทำให้ชาวเอเชียในสหรัฐฯต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก


เหตุกราดยิงร้านสปาที่เมืองแอ็คเวิร์ท และในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้ตำรวจจะยังไม่สรุปแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย ที่เพิ่งถูกจับกุมหลังก่อเหตุไม่กี่ชั่วโมง แต่จากการที่มีผู้เสียชีวิตถึง 8 คน ในจำนวนนี้ 6 คนเป็นหญิงเชื้อสายเอเชีย ก็ยิ่งทำให้ชาวเอเชียในสหรัฐฯ อดหวั่นวิตกไม่ได้ว่า เหตุการณ์นี้อาจเกิดจากความเกลียดชังที่มีต่อพวกเขาก็เป็นได้


ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาที่โควิด-19 อุบัติขึ้นในสหรัฐฯ และที่สำคัญการที่ไวรัสตัวนี้ถูกระบุว่า มีต้นตอมาจากจีน ทำให้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียถูกเลือกปฏิบัติ สายตาที่มองมาที่พวกเขา ไม่มีความเป็นมิตร หลายคนไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่เพียงแต่หวาดกลัวเชื้อโควิด-19 เท่านั้น แต่ยังกลัวที่จะถูกทำร้าย เพียงเพราะว่า พวกเขามีเชื้อสายเอเชีย แม้แต่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังใช้คำพูดที่เหยียดเชื้อชาติว่า "Chinese Virus" หรือ "กังฟลู"


จากข้อมูลของศูนย์การศึกษาความเกลียดชังและคตินิยมสุดขีด ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยที่เป็นกลางระบุว่า ตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2020 อาชญากรรมที่เกิดจากการต่อต้านชาวเอเชีย ใน 16 เมืองใหญ่เพิ่มขึ้นถึง 149%


ขณะที่ข้อมูลของ STOP AAPI Hate หรือ องค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก ปรากฏว่า คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ ตกเป็นเป้าของการถูกคุกคาม หรือทำร้ายเนื่องจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติหรือสีผิว มากกว่า 3,795 ครั้ง ภายในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปี


ชาวเอเชียในสหรัฐฯออกมาเคลื่อนไหวให้ยุติความเกลียดชังที่รุนแรงเช่นนี้ และว่า ไวรัสที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่โควิด นายน์ทีน แต่ความเกลียดชังที่มีต่อชาวเอเชียต่างหากที่น่ากลัวที่สุด แม้แต่โลกออนไลน์ก็ร่วมติดแฮชแท็ก StopAsianHate


บรรดาผู้นำชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้เพื่อปกป้องชุมชนเอเชีย


ส่วนประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯก็ติดตามการทำงานของเอฟบีไอในคดีกราดยิงหมู่ ร้านสปา 3 แห่งในรัฐจอร์เจียอย่างใกล้ชิด และแสดงความเป็นห่วงชุมชนเอเชียในสหรัฐฯ


สัปดาห์ที่ผ่านมา ในระหว่างการแถลงทั่วประเทศเนื่องในวันครบรอบ 1 ปี ที่สหรัฐฯต้องชัตดาวน์ประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ประธานาธิบดีไบเดน ยังได้ประณามความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียด้วย พวกเขาต้องมากลายเป็นเหยื่อ และถูกโยนความผิดว่า เป็นต้นตอของการแพร่ระบาด

คุณอาจสนใจ