เลื่อนการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ หลังลงมติในวาระสองได้เพียงมาตรา 9

เลือกตั้งและการเมือง

เลื่อนการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ หลังลงมติในวาระสองได้เพียงมาตรา 9

โดย weerawit_c

19 มี.ค. 2564

17 views

ที่ประชุมรัฐสภา ปิดการประชุมไปเมื่อ 20.00 น.หลังจากพักการประชุมในช่วงค่ำกว่า 1 ชั่วโมงเพื่อหารือถึงการลงมติในมาตรา 9 เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ที่รัฐสภาเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ด้วยคะแนน 273: 267 ที่ให้เพิ่มเงื่อนไขในการจัดการออกเสียงประชามติอีก 3 กรณีในประเด็นที่กฏหมายกำหนดให้ทำประชามติ กรณีที่รัฐสภาเห็นชอบให้คณะรัฐมนตรีจัดประชามติ และประชาชนสามารถเข้าชื่อเพื่อขอมติ ครม.ทำประชามติได้


ทำให้กระทบต่อมาตราอื่น ที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เห็นว่า ต้องหารือให้สอดคล้องกับมาตราอื่น จึงต้องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาพิจารณาให้ครบถ้วน ซึ่งไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จก่อนปิดการประชุมสมัยวิสามัญในคืนนี้ได้ จึงต้องเลื่อนไปพิจารณาในครั้งหน้า แต่หากรอเปิดประชุมสมัยสามัญต้องรอถึงเดือนพฤกษภาคม จึงจะมีการหารือเพื่อเปิดการประชุมสมัยวิสามัญ ภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งสมาชิกรัฐสภา เห็นด้วย


ทั้งนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้งนายสมชาย แสวงการ ส.ว. และนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปรัฐฝ่ายค้าน ที่ห่วงว่าหากการพิจารณากฏหมายประชามติล่าช้าออกไปจะกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นความหวังของประชาชน จึงควรเปิดประชุมสมัยวิสามัญภายในเดือนเมษายนนี้


สำหรับท่าทีต่อการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 พรรคร่วมฝ่ายค้านแสดงความเสียใจและผิดหวังกับเกมที่เกิดขึ้นในรัฐสภา โดยนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้แต่งชุดดำ ติดปลอกแขนไว้ทุกข์ให้กับ เด็กชายร่างรัฐธรรมนูญ ที่ถูกรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว.ทำแท้ง ซึ่งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน ยืนยันว่าจะเดินหน้าสนับสนุนให้มีกฏหมายประชามติมารองรับการเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในการประชุมสมัยหน้าได้ทันที


ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เห็นว่าการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เป็นฝันสลายของประชาชน กับกระบวนการขัดขวาง เปรียบเป็นเหมือนการทำรัฐประหารเงียบ ฝ่ายค้านจึงจะทำทุกทางเพื่อสร้างรัฐธรรมนูญที่ดีให้เกิดขึ้น ด้านนายชัยธวัธ ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เห็นว่าเป็นเจตนาที่ชัดเจนของรัฐบาลที่ต้องการล้มการจัดตั้ง ส.ส.ร. จึงเรียกร้องทุกฝ่ายหยุดเล่นละครหลอกลวงประชาชน และนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ถามหาความรับผิดชอบจากนายกรัฐมนตรีที่ล้มเหลวในการผลักดันนโยบายเร่งด่วน


ส่วนนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าการวอล์คเอ้าไม่ใช่แสดงละคร ยืนยันว่าไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าจะเปลี่ยนเกมกลางอากาศ จึงไม่เห็นด้วย ส่วนจะมีผลต่อความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เป็นเรื่องธรรมดาของการทำงานในสภาที่ผ่านมา 3 ปี แต่ส่วนตัวไม่ใช่ผู้ที่มีสิทธิ์ตัดสินว่าจะยุบสภาหรือไม่


ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ไม่ใช่การวอล์คเอ้าท์ทั้งพรรค แต่พรรคมีมติชัดเจนที่จะไม่ลงมติในวาระ 3 เพราะจะขัดต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลต่อการถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องของสภาและเอกสิทธิ์ ส.ส.และยังเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ


ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหน้าที่สุดพลังความสามารถและสุดทางแล้ว ที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมเสนอทางออกที่ขัดแย้งกับสองฝ่ายซึ่งเห็นไม่ตรงกันกับคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในที่สุดตัดสินใจเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการโหวตลงมติ เห็นชอบแต่เสียงไม่พอ และยืนยันจุดเดิมต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเดินหน้าต่อไป ซึ่งแนวทางที่เป็นไปได้อาจต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เช่นมาตรา 256


ขณะที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยอมรับว่า เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่ตรงกัน ไม่กระทบกับเสถียรภาพรัฐบาล เพราะได้แจ้งไปแล้วให้ ฟรีโหวต ยืนยันว่ารัฐบาลตั้งใจจะแก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่จะแก้อย่างไรให้ เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และไม่รู่ว่าจะเดินหน้าได้เมื่อใด


ส่วนนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นผู้เสนอให้ลงมติในวาระ 3 จนร่างรัฐธรรมนูญตกไปนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เล่นเกมคว่ำรัฐธรรมนูญ แต่ทำตามขั้นตอนกฏหมาย ซึ่งส่วนตัวเห็นกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับด้วยการลงประชามติเป็นเรื่องยุ่งยาก จึงเตรียมเสนอให้แก้ไขรัฐรรมนูญเป็นรายมาตรา

คุณอาจสนใจ