ย้อนสำนวน! ศาลฎีกาให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาใหม่ คดีลูกชายสุเทพรุกป่าเขาแพง

เลือกตั้งและการเมือง

ย้อนสำนวน! ศาลฎีกาให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาใหม่ คดีลูกชายสุเทพรุกป่าเขาแพง

โดย nicharee_m

18 มี.ค. 2564

363 views

ศาลฎีกาสั่งย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ หลังวินิจฉัยว่า สำนวนคดีรุกป่าเขาแพง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการบรรยายสำนวนจำเลยที่ 1 และ 2 ไม่ชัดเจน มีการบรรยายชัดเจนแล้ว


วันนี้ (18 มี.ค.2564) นายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายของนายสุเทพ เทือกสุบบรรณ เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีรุกป่าเขาแพง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายพรชัย ฟ้าทวีพร ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนเรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น นายสามารถ หรือ โกเข็ก เรืองศรี หุ้นส่วน หจก.เรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น และนายหน้าขายที่ดิน นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. และนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายสุเทพ เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดฐานร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางป่า หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า 


เหตุเกิดช่วงปี 2543-2544 โดยจำเลยที่ 1 และ 2 ถูกแจ้งความดำเนินคดี ฐานร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ่วถางป่าเขาแพง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวา ส่วนจำเลยที่ 3 และ 4 ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ่วถางป่าเขาแพง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 14 ไร่ ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต


หลังใช้เวลาฟังคำพิพากษาไม่ถึง 30 นาที นายแทน ได้กลับลงมาพร้อมปฎิเสธไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะที่นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เปิดเผยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-4 จำคุกคนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากพิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ต่อมาในชั้นศาลอุทธรณ์ หลังตรวจสำนวนแล้ว ได้พิพากษายกฟ้องพวกจำเลยทั้งหมด 


โดยในคำพิพากษายังแบ่งเป็นว่า สำหรับจำเลยที่ 1 และ 2 สำนวนคดีมีความเคลือบคลุม หรือไม่ชัดเจนในการบรรยายฟ้อง อัยการจึงยื่นฎีกาไปยังศาลฎีกา เพื่อขอให้วินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว โดยผลการวินิจฉัยของศาลฎีกา เห็นว่าสำนวนคดีไม่ได้เคลือบคลุมตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา จึงเห็นควรย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ 


ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ศาลอุทธรณ์ ก็จะเรียกสำนวนคดีในศาลชั้นต้นประกอบกับที่มีการไต่สวนในชั้นอุทธรณ์มาพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อออกคำพิพากษาอุทธรณ์ใหม่ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าต้องใช้เวลามากน้อยเพียงใด เนื่องจากคดีนี้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก และแม้ว่าตามปกติแล้ว ศาลจะใช้พยานหลักฐานเดิมที่มีการไต่สวนไปแล้วในการพิจารณา แต่ศาลก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการนัดไต่สวนเพิ่มเติมได้ ส่วนจะมีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาจำเลยที่ 3 และ 4 หรือไม่ ยังบอกไม่ได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลในการพิจารณาคดีหลังจากนี้

คุณอาจสนใจ

Related News