เปิดมติพลิกเกม! ส.ว.แท็กทีม ทำแท้งร่างแก้ไข รธน. วาระ 3

เลือกตั้งและการเมือง

เปิดมติพลิกเกม! ส.ว.แท็กทีม ทำแท้งร่างแก้ไข รธน. วาระ 3

โดย pichaya_s

18 มี.ค. 2564

808 views

การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในที่สุด ที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติ คว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วด้วยมติ


- เห็นชอบ 208 คน (ส.ส.206 / ส.ว.2)

- ไม่เห็นชอบ 4 คน (ส.ว.)

- งดออกเสียง 94 คน(ส.ส.10 / ส.ว.84 )

- ไม่ลงคะแนน 136 คน(ส.ส. 9 / ส.ว. 127 )


ซึ่งเสียงเห็นชอบมีไม่ถึงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกตามเงื่อนไข คือ 369 คน จึงถือว่า “ไม่เห็นชอบ” กับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย


การประชุมเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) เริ่มตั้งแต่เวลา 09.50 น. โดยไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่าการลงมติในวาระนี้จะกระทำไม่ได้ เนื่องจากขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับกลุ่มสว.  ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันให้มีการเดินหน้าโหวตต่อ 


ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของพรรคในการลงมติวาระ3 ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีข้อสรุปที่จะเสนอให้รัฐสภา มีมติถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ความกระจ่างอีกครั้งเพราะมีความเห็นหลายฝ่ายไม่ตรงกัน เพราะบางฝ่ายมองว่าไม่สามารถลงมติวาระ 3 ได้


ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวในฐานะผู้เสนอญัตติร่วมกับนายไพบูลย์ กล่าวว่าฝ่ายกฎหมายของวุฒิสภาพิจารณาแล้วยืนยันว่า รัฐสภาไม่สามารถลงมติวาระ 3 ได้ เพราะตามคำวินิจฉัยต้องทำประชามติถามประชาชนก่อนว่าจะให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้หรือไม่ ดังนั้นการลงมติวาระ 3 จึงไม่สามารถกระทำได้ เช่นเดียวกับความเห็นของฝ่ายกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญขณะนี้เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงไม่สามารถลงมติในวาระ 3 ได้


ด้านนายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสนอ ให้รัฐสภาเดินหน้าลงมติวาระ3 เพื่อไปถามประชาชน ในฐานะเจ้าของอำนาจ ได้ขอให้รัฐสภาเห็นแก่บ้านเมืองเพราะไม่อยากเห็นภาพการนองเลือดเกิดขึ้น และไม่อยากให้ร่างแก้รธน.นี้ต้องแท้งก่อนคลอด หากคว่ำร่างนี้จะชวนสภาชิกทุกคนแต่งชุดดำไว้ทุกข์ 


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/VXjSTR3J_RM


คุณอาจสนใจ

Related News