เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวนายอานนท์ นำภา หนึ่งในจำเลยคดีม็อบคณะราษฎร 2563 ไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดา เพื่อไต่สวนกรณียื่นคำร้องที่เขียนด้วยลายมือ ระบุถึงการ ควบคุมตัวแกนนำกลางดึก ขณะถูกคุมขังในเรือนจำ โดยนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความแกนนำกลุ่มราษฎร ระบุว่าทีมทนายขอให้ศาลออก คำสั่งเรียกภาพเหตุการณ์ จากกล้องวงจรปิดในเรือนจำ มาเป็นหลักฐานการไต่สวนด้วย

และระบุว่า ระหว่างไต่สวน นายอานนท์ อ้างถึงชายคนหนึ่งเคยข่มขู่ว่าจะส่งคนมาทำร้ายตนในเรือนจำ ส่วนประเด็นที่กรมราชทัณฑ์ อ้างว่าต้องการนำผู้คุมขัง มาตรวจชื้อโควิด 19 นั้น นายอานนท์ ยืนยันกับศาลว่าที่ผ่านมา เข้า-ออกเรือนจำหลายครั้ง ไม่เคยตรวจหาเชื้อ แบบที่แกนนำกลุ่มราษฎรถูกกระทำ ส่วนมาตรการคุ้มครองที่แกนนำร้องขอ นายกฤษฎางค์ ระบุว่ายังนึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นเช่นไร เพราะเป็นกรณีแรกที่มีคำร้องขอ

ขณะเดียวกัน ศาลเรียกตัวแทนของกรมราชทัณฑ์ ไต่สวนกรณีนี้ด้วย และวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม นี้ ศาลจะเรียกนายจตุภัทร์ หรือ ไผ่ กับนายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ ขึ้นไต่สวน โดยสั่งให้เรือนจำ ส่งภาพและคลิปวิดีโอวงจรปิด เพื่อประกอบการไต่สวนด้วย

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงยืนยันว่า กรณีนี้เป็นแค่การนำตัวผู้ถูกคุมขังไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามปกติของเรือนจำ ป้องเหตุจลาจลที่มีข่าวลือ การระบาดของโควิดในเรือนจำ พร้อมอธิบายว่า มีการเจรจาให้ทั้ง 3 คน ย้ายออกจากห้องกักกันโรค เพื่อแยกจากผู้ต้องขังคนอื่นก่อน รวมถึงเชิญแพทย์แพทย์เตรียมอุปกรณ์ ไปเข้าไปด้วยเมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่ม แต่ทั้ง 3 ไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่จึงพาผู้ต้องขังทั่วไปออกไปตรวจโควิด โดยยืนยันว่าตลอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัว ไม่มีเหตุความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น

ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.คอรีเยาะ มานุแช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมแม่แกนนำราษฎรที่ถูกคุมขัง ยื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว