เกิดเหตุบุกยิงร้านนวด 3 แห่งในจอร์เจียช่วงเย็นวันอังคาร (16 มี.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงเอเชีย 6 คน โดยตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ขณะหลบหนี เป็นชายผิวขาววัย 21 ปี และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียจำนวนมากขึ้นตกเป็นเป้าหมายอาชญากรรมจากความเกลียดชังในชุมชน และทำให้เกิดความกลัวกันว่า ธุรกิจของคนเอเชียอาจเป็นเป้าหมายต่อไป

เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น โดยมีเหยื่อ 5 คนถูกยิงที่ร้านนวดยังส์ เอเชียนในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใกล้เขตชนบทในเมืองแอ็กเวิร์ธ ในจำนวนนี้เสียชีวิต 4 คน เป็นผู้หญิงเอเชีย 2 คน, ผู้หญิงผิวขาว 1 คน และชายผิวขาว 1 คน

ต่อมาเวลาประมาณ 17.50 น. ตำรวจในย่านบัคเฮดของแอตแลนตา เมืองหลวงของรัฐจอร์เจีย ได้รับแจ้งว่า มีการปล้นที่ร้านโกลด์ สปา ซึ่งเมื่อไปถึงพบผู้หญิง 3 คนถูกยิงเสียชีวิต และได้รับแจ้งขณะยังอยู่ในที่เกิดเหตุว่า มีการกราดยิงในสปาอีกแห่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่ชื่อว่า อะโรมาเธราปี สปา ซึ่งพบผู้หญิงคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในร้าน โดยผู้หญิงทั้ง 4 คนนี้เป็นชาวเอเชีย

ต่อมาตำรวจได้แถลงการจับกุมผู้ต้องสงสัยคือนายโรเบิร์ต แอรอน ลอง ซึ่งก็รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ และเผยแรงจูงใจว่าตนเองในมีปัญหาเรืองการเสพติดการมีเพศสัมพันธ์ และเชื่อว่าสปาเป็นสิ่งยั่วยุตัวเขา จึงต้องกำจัดให้หมดไป

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการเหยียดชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ถูกตีตราเป็นผู้แพร่เชื้อโควิด-19 ซึ่งอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เคยกล่าวว่า "ไวรัสจีน" โดยที่รัฐจอร์เจียมีชาวเอเชียอาศัยอยู่ราว 500,000 คน คิดเป็น 4% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของรัฐนี้