วันที่ 16 มี.ค. 2564 รายการโหนกระแสพูดคุยกับนางภาวิณีย์ สุภศรี และ น.ส.ขนิษฐา เคร่งครัด หรือ นุ่น แม่และญาติของผู้เสียชีวิต กรณีตำรวจบีบคอแฟนสาวเสียชีวิต แล้วนำศพไปเผานั่งยาง

นุ่น เล่าว่า ตนและผู้ตายอยู่บ้านพักตำรวจหลังเดียวกัน โดยตนอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน และผู้ตายอาศัยอยู่ห้องชั้นล่าง โดยปกติผู้ตายจะเรียกให้ตนไปทำงานทุกวัน แต่เมื่อวันที่ 11 มี.ค. เกิดผิดสังเกต ผู้ตายไม่ได้เรียกตน จึงได้ตะโกนเรียกผู้ตายแต่ไม่ได้รับการตอบรับ จึงพยายามเปิดกลอนประตู และมองผ่านช่องว่างของห้อง กลับไม่พบกับผู้ตาย แต่ของส่วนตัวทั้งกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ กุญแจรถ ยังอยู่ภายในบ้าน

จึงได้ให้แม่ของผู้ตายโทรไปถาม นายตำรวจ แฟนหนุ่ม ว่าทราบหรือไม่ว่าผู้ตายหายตัวไป ซึ่งก็ได่้รับการยืนยันว่า รู้เรื่องแต่ยังไม่มีเวลาตามหา โดยให้เหตุผลว่ายังทำงานอยู่ 

นุ่นยังเล่าอีกว่า ตนจึงเกิดสงสัย และสังเกตเห็นว่าผ้าปูที่นอนของผู้ตายถูกเปลี่ยนและไม่มีรอบยับ น้องที่เข้ามาช่วยเปิดกลอนประตูจึงเข้าไปนอนทับ แต่รู้สึกว่าบนที่นอนเปียกและเหมือนมีคราบถูกล้างไว้

ต่อมาทางญาติได้แจ้งความกับตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงเข้ามาตรวจสอบบ้านจุดเกิดเหตุ และสอบสวนข้อมูลกับทางญาติ และขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังยืนสอบสวนอยู่หน้าบ้าน นายตำรวจ แฟนหนุ่มที่เป็นผู้ลงมือฆ่า ก็ได้ยืนเพื่อฟังการสอบสวน ทั้งยังเข้าตรวจค้นภายในบ้านด้วย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตำรวจสงสัยที่เหตุเกิดในบ้านพักของข้าราชการ จึงได้เรียกนายตำรวจ แฟนหนุ่ม ให้ปากคำ สุดท้ายจนมุม สารภาพผู้ลงมือฆ่าผู้ตาย อ้างบันดาลโทสะจากเหตุหึงหวง แล้วนำศพใส่ถุงไปเผานั่งยางในพื้นที่วังน้อย และชิ้นศพส่วนหนึ่งที่เผาไม่หมดนำไปทิ้งที่แม่น้ำเจ้าพระยา เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาลงมือฆ่าผู้อื่นโดยไม่มีเจตนา

นุ่น จึงค้างคาใจได้ไปสืบค้นข่าวอาชญากรรมในลักษณะเดียวกัน แต่ทำไมข้อหาและโทษความผิดต่างกัน จึงเรียกร้องให้พนักงานสอบสวนเพิ่มข้อหา และรับโทษประหารชีวิต นอกจากนี้ยังเชื่อด้วยว่า แฟนหนุ่มของผู้ตาย ไม่ได้ลงมือทำคนเดียว