วันนี้ ครบรอบ 17 ปีการหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิต อดีตนักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน โดยนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยา และญาติผู้สูญหายได้จัดกิจกรรมร่วมรำลึก 17 ปี ที่หน้าอาคารของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เรียกร้อง ให้รัฐบาลแสดงความจริงใจแก้ปัญหาคนสูญหาย 

นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของทนายสมชาย นีละไพจิตร พร้อมด้วยญาติผู้สูญหายในประเทศไทย รวมทั้งแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าคดีและร่วมรำลึก 17 ปี การหายตัวไปของทนายสมชาย ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ 

โดยมีพันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเรื่อง และกล่าวว่า ดีเอสไอติดตามคดีคนสูญหายมาโดยตลอด ซึ่งการสูญหายเป็นระยะเวลานานก็มีผลทำให้พยานหลักฐานสำคัญสูญหาย ซึ่งก็มีผลต่อคดี แต่อย่างไรก็ตามดีเอสไอก็จะพยายามติดตามและหาหลักฐานประกอบคดีให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้กระจ่าง เพราะเป็นห่วงความรู้สึกครอบครัวของผู้สูญเสีย

ขณะที่นางอังคณา กล่าวว่า 17 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ตำรวจบอกว่าได้พยายามทำงานเพื่อติดตามคดี แต่ส่วนตัวก็มองว่าไม่มีอะไรคืบหน้าแต่ก็ขอบคุณดีเอสไอที่ยืนยันว่ายังคงทำคดีต่อเนื่อง แต่ส่วนตัวมองว่าหลักสำคัญที่จะบ่งบอกถึงความจริงใจ และการพยายามแก้ปัญหาการบังคับบุคคลสูญหาย คือบทบาทของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาล ไม่เคยแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ที่เห็นได้ชัดคือการร่าง พ.ร.บ.ลงนามอนุสัญญาคนหายของสหประชาชาติ ที่มีการพยายามผลักดันเข้าสภาตั้งแต่ปี 2555 ผ่านมาจนตอนนี้เกือบ 10 ปี รัฐบาลกลับไม่เคยพูดถึง

ทนายสมชายหายตัวไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคมปี2547 ขณะเดินทางไปที่ย่านหัวหมากได้มีการตั้งคณะทำงานติดตามหาเบาะแส หลายชุด โดยเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว มีการพบรถยนต์ส่วนตัวที่ขับไปในวันเกิดเหตุ ตรวจพบเส้นผมผู้ต้องสงสัย จนถึงการใช้โทรศัพท์มือถือ พบไปเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีการสั่งฟ้องไป 4 นาย จาก 5 นายแล้วกันไว้เป็นพยาน1นาย ต่อมาศาลยกฟ้องทั้งหมด ส่วนพยาน1นายก็หายตัวไปโดยรายงานระบุว่าถูกน้ำป่าพัดหายไป เมื่อหลายปีก่อน ทำให้คดีนี้ไม่มีพยานบุคคลที่เคยตกเป็นผู้ร่วมก่อเหตุมาให้การเป็นพยานได้ ว่า ทนายสมชายถูกฆ่าอำพรางหรือไม่ ล่าสุดคดีอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอส 

นอกจากนี้นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือเจร พี่สาวของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้า ผู้ลี้ภัยการเมืองที่ถูกอุ้มหาย ในประเทศกัมพูชา เข้าร่วมกิจกรรมด้วย เปิดเผยว่า ขณะนี้กว่า 9 เดือนแล้วที่นายวันเฉลิม หายตัวไป หากครบกำหนด 1 ปีแล้ว ยังไม่คืบหน้า จะกลับไปยื่นหนังสือให้องค์กรต่างประเทศในทวีปยุโรป เพื่อเรียกร้องให้มีความคืบหน้า