คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่

เลือกตั้งและการเมือง

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่

โดย weerawit_c

12 มี.ค. 2564

11 views

โดยเฉพาะนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่า พอใจมากกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน ซึ่งส่วนตัว เห็นว่า ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่ผ่านวาระที่ 2 ของรัฐสภา ต้องตกไป และการพิจารณาในวาระที่ 3 ก็ตกไป เช่นกัน 



และหากจะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องทำประชามติสอบถามประชาชน และต้องดำเนินการโดยรัฐสภา ไม่ใช่ ตั้ง ส.ส.ร. และต้องให้กฏหมายประชามติผ่านรัฐสภาเสียก่อน ซึ่งจะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ในวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 17-18 มีนาคมนี้ จากนั้นต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ และต้องให้รัฐสภามีมติเพื่อขอให้รัฐบาลจัดทำการออกเสียงประชามติ โดยคาดว่าต้องรอให้เปิดสมัยประชุมในวันที่ 22 พฤษภาคม นายไพบูลย์ จึงมองว่า หากไม่ต้องการให้เสียเวลาและเสียงบประมาณในการลงประชามติ ก็ควรให้รัฐสภาแก้แบบรายมาตรา จะดีกว่า



ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฏหมายพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า จากคำวินิจฉัย เห็นว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ สอดคล้องกับที่รัฐสภากำลังดำเนินการ ผ่านวาระ 3 จากนั้นจึงนำร่างไปสอบถามประชาชนผ่านการลงประชามติ หากประชาชนเห็นชอบก็ให้ตั้ง ส.ส.ร.มา ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เสร็จแล้วจึงทำประชามติอีกครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องที่จะไปทำผิดเพี้ยนไปจากนี้ โดยวันพรุ่งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือเพื่อกำหนดท่าทีต่อไป เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่เตรียมหารือถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 15 มีนาคม



ขณะที่กลุ่มสร้างไทยโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มีแถลงการณ์ เสนอให้รัฐสภา เลื่อนการลงมติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ออกไปก่อน เพื่อรอการทำประชามติสอบถามประชาชนตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายกรัฐมนตรีต้องเร่งให้มีการออกเสียงประชามติโดยเร็วที่สุด เนื่องจากทางออกเดียวที่จะนำพาประเทศชาติออกจากวิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง คือการคืนอำนาจให้ประชาชน ด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่



ส่วนนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่นำคำวินิจฉัยสรุปมาแจ้งให้รับทราบแล้ว ซึ่ง ถ้อยความระบุชัดเจนว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ 



ซึ่งหากดูจากคำวินิจฉัยของศาลแล้ว การทำประชามติดังกล่าว หมายถึงกรณีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ต้องถามประชาชนก่อน จะให้ ส.ส.ร. ลงมือร่างรัฐธรรมนูญ และเมื่อ ส.ส.ร. ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ต้องนำกลับไปทำประชามติถามประชาชนอีกรอบว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่ ส.ส.ร. ร่างมาหรือไม่ ยืนยันว่ากรณีนี้ ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินการอยู่ เพราะเป็นกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่ใช่กรณีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องทำประชามติ 2 รอบ



ส่วนการเดินหน้าพิจารณาลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระที่3 ยืนยันว่าขณะนี้ได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณาแล้ว โดยจะพิจารณาในวันที่ 17 ถึง 18 มีนาคมนี้ อย่างไรก็ตามประเด็นที่มีผู้ตั้งข้อสังเกต ว่าจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจไม่สามารถพิจารณาในวาระที่3ต่อได้นั้น เป็นเรื่องที่ต้อง ไปพิจารณาจากคำวินิจฉัยฉบับเต็มก่อน ซึ่งได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาไปดำเนินการแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News