นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยื่นเอกสาร 32 หน้า พร้อมพยานหลักฐานที่ระบุว่ามี 47 รายการ เพื่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ใช้เป็นหลักฐานไต่สวน ตามคำร้องว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยาง ขององค์การคลังสินค้า หรืออคส. ในโครงการที่มีมูลค่ากว่า 112,500 ล้านบาท โดย อคส.จ่ายเงินมัดจำให้บริษัทเอกชนไปแล้ว 2,000 ล้านบาท

ผู้ที่ถูกยื่นร้องให้ไต่สวนคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรี ซึ่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุว่า มีข้อเท็จจริงภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า นายกรัฐมนตรี มีฐานะเป็นประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ถือเป็นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฎิบัติ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ กรณีจงใจร่วมกับนายจุรินทร์ ปกปิดการกระทำของหน่วยงานรัฐ ไม่ยับยั้งการทุจริต ทั้งที่อยู่ในวิสัยและอำนาจที่จะทำได้ 

และต่อมาคือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะกำกับดูแลองค์การคลังสินค้า กรณีแต่งตั้งคนใกล้ชิด ไม่มีความสามารถ ให้เป็นประธานคณะกรรมการ อคส. นำมาซึ่งการทำ สัญญาลวงระหว่าง อคส.กับบริษัทเอกชน เพื่อซื้อถุงมือยาง มูลค่ากว่า1 แสนล้าน และจนเกิดความเสียหาย 2 พันล้านบาท ซึ่งร้องให้ไต่สวนความผิดตามมาตรา 157 และความผิดทางจริยธรรม

นอกจากนี้ยังร้องให้ไต่สวนเอาผิดนายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ อคส. กรรมการ อคส. และรักษาการแทนผู้อำนวยการ อคส. ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ และความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่ามีหลักฐานใหม่ที่เป็นคลิปบันทึกการประชุม ของ อคส.นาน 3 ชั่วโมง ซึ่งพาดพิงบุคคลที่ถูกต้องให้ไต่สวนดังกล่าว จึงคาดหวังว่า ป.ป.ช. จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะเห็นว่าล่วงเลยจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมานาน แต่คดีไม่คืบหน้าและคนที่เกี่ยวข้องยังอยู่ในตำแหน่ง

ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชว. โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจุรินทร์ ถูกยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบวันนี้ว่า นายจุรินทร์ได้ชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้ ในระหว่างการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะเดียวกัน ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมข้อมูลเอกสารไว้แล้วเช่นกัน เพราะมีความพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ

มีข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า เชิญเจ้าหน้าที่ อคส.3 คนมาฟังผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูคล่ากว่า 112500 ล้านบาท ประกอบด้วย อดีตรักษาการ ผู้อำนวยการ อคส. และเจ้าหน้าที่บริหารระดับ 8 อีก 2 คน เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหากระทำผิดวินัย แต่ในรายชื่อผู้ถูกเรียกมารับฟังผลสืบสวนและรับทราบข้อกล่าวหานั้น ไม่มีชื่อประธานบอร์ด อคส. ที่ถูกพาดพิงในการอภิปราย และเป็นหนึ่งในรายชื่อที่เลขาธิการพรรคเพื่อไทยยื่นให้ ป.ป.ช.สอบ