สหภาพแรงงานเมียนมาออกมาเรียกร้องให้สมาชิกร่วมกันผละงานประท้วง ชัตดาวน์เศรษฐกิจประเทศ หวังเพิ่มแรงกดดันกองทัพให้ยุติการยึดอำนาจ ขณะที่ประชาชนยังคงออกมาชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง

พันธมิตรสหภาพแรงงาน 9 กลุ่ม ซึ่งมีทั้งภาคการก่อสร้าง, เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม เรียกร้องให้ชาวเมียนมาทุกคนร่วมกันผละงานประท้วง เพื่อต่อต้านการทำรัฐประหารของกองทัพ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะการที่เศรษฐกิจและธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้ ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อกองทัพ โดยย้ำว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องประชาธิปไตย ทำให้ในวันนี้ ร้านค้า, โรงงาน และธนาคารหลายแห่งในนครย่างกุ้ง ปิดให้บริการ

ขณะที่ในวันนี้ ยังคงมีการชุมนุมเคลื่อนไหวในหลายเมืองทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่เมืองมยิตตา (Myitta) ของเขตตตะนาวศรี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ตำรวจของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงพร้อมอาวุธปืน ได้ออกมาเดินขบวนเพื่อปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 2,000 คน ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร ทั้งนี้ สหภาพแห่งชาติเหรี่ยง (KNU) ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อสู้เพื่อเอกราช กับรัฐบาลกลางของเมียนมา มาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ 

ส่วนที่เมืองทวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมพากันใช้น้ำ, ผ้าห่ม และถังดับเพลิง ดับควันที่ออกมาจากกระป๋องแก๊สน้ำตา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปในที่สุด แหล่งข่าวในพื้นที่รายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมตัวอย่างน้อย 7 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน 

ที่เมืองมัณฑะเลย์ ก็ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาเดินขบวนเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารเช่นเดียวกัน โดยผู้ชุมนุมหลีกเลี่ยงการเดินขบวนไปบนถนนสายหลัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นถนนเอาไว้ และเป็นการหลีกเลี่ยงการปะทะกัน 

นอกจากนี้ สำนักข่าว AP ยังได้เผยแพร่ภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยอาวุธปืนเดินลาดตระเวนในช่วงกลางดึก ภายในนครย่างกุ้ง โดยเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายส่องไปตามหน้าต่างของบ้านเรือน และยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน และยังมีภาพเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเมียนมา รุมเตะและทุบตีชายคนหนึ่งที่นอนไม่เคลื่อนไหวอยู่ริมถนนในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งร่างชายดังกล่าวดูเหมือนจะไม่เคลื่อนไหว และเหมือนจะเสียชีวิตแล้ว

รายงานจากสื่อต่างประเทศในวันนี้ ระบุว่ามีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตทั้งหมด 2 คน ในเมืองมยิจีนา เมืองเอกของรัฐกะฉิ่น ทางตอนเหนือของเมียนมา โดยผู้ชุมนุมถูงยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ จนถึงขณะนี้ มีผู้ชุมนุมชาวเมียนมาเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 50 คน