ประชาคมโลกยังคงออกมากดดันรัฐบาลเมียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่ประกาศคว่ำบาตร 2 กระทรวงของเมียนมาเพิ่มเติม เช่นเดียวกันกับทางอียู ที่ประกาศระงับเงินช่วยเหลือเพื่อพัฒนาประเทศ ในขณะที่ประชาชนยังคงออกมาชุมนุมต่อ มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คน

เมื่อวานนี้ นางราวินา ชัมดาซานี (Ravina Shamdasani) โฆษกประจำสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ OHCHR ออกมาประณามอย่างรุนแรง ต่อการใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ชุนุมในเมียนมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 54 คน โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุด พร้อมเรียกร้องให้ทางการเมียนมาหยุดใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

ขณะที่ทางด้านรัฐสหรัฐอเมริกา ออกมาประกาศขึ้นบัญชีดำกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไท ของเมียนมาเพิ่มเติม รวมถึงคว่ำบาตรบริษัท 2 แห่งที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพของเมียนมา สืบเนื่องจากการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า ทางด้านสหภาพยุโรป หรืออียู ออกแถลงการณ์ระงับเงินทุนการช่วยเหลือพัฒนาประเทศ แก่เมียนมาเพื่อป้องกันการช่วยเหลือทางการเงินให้กับทางกองทัพ โดยได้ส่งหนังสือไปยังองค์การการค้าโลก (WTO) แล้ว ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา อียูสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาประเทศแก่เมียนมาสูงถึง 200 ล้านยูโร (ราว 7 พัน 2 ร้อยล้านบาท) 

ในขณะที่ยูทูบ (YouTube) ก็ได้สั่งระงับช่องที่ดูแลโดยกองทัพเมียนมาจำนวนทั้งหมด 5 ช่องที่อยู่บนยูทูบ ซึ่งได้แก่ เมียวดี มีเดีย (Myawaddy Media), เอ็มอาร์ทีวี (MRTV), ดับเบิลยูดี ออนไลน์ บรอดแคสติ้ง (WD Online Broadcasting), เอ็มดับเบิลยูดี วาไรตี้ (MWD Variety), และ เอ็มดับเบิลยูดี เมียนมา (MWD Myanmar) ฐานฝ่าฝืนกฎหมายและกฎการใช้งานแพลตฟอร์ม 

ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในเมียนมาวันนี้ ยังคงมีประชาชนออกมาชุมนุมกันอย่างต่อเนื่องในหลายเมือง โดยเฉพาะที่เมืองมัณฑะเลย์ ออกมาเคลื่อนไหวเดินขบวนไปตามท้องถนน เพื่อแสดงพลังต่อต้านการยึดอำนาจรัฐประหารและเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน ตามรายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตถูกยิงเข้าที่บริเวณลำคอ ขณะเดียวกันที่นครย่างกุ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยางและระเบิดควันเพื่อสลายการชุมนุมเช่นเดียวกันกับที่เมืองทวาย

และหลังจากเมื่อประมาณ 4 วันก่อน มีรายงานว่า ไป่ ทาคน นายแบบเมียนมาชื่อดัง หายตัวไปปริศนา จนพี่สาวออกมาประกาศบนเฟซบุ๊กเพื่อตามหาตัวน้องชาย ล่าสุดเมื่อวาน ไป่ ทาคน กลับมาเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียอีกครั้ง โดยเขาได้โพสต์ข้อความลงบนเฟสบุ๊กเรียกร้อง ให้องค์การสหประชาชาติออกมาประณามและดำเนินการตอบโต้กับกองทัพเมียนมาจากการสลายการชุมนุมที่นองเลือด