สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในไทย วันที่ 4 มีนาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 54 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 26,162 ราย หายป่วยแล้ว 25,562 ราย ยังรักษาใน รพ. 515 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 85 ราย

ส่วนที่ปทุมธานี คลัสเตอร์โรงชำแหละหมูของเจ๊หยก ทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายคน และยังเหลือแรงงานจำนวน 16 คน ที่ยังไม่ได้รับการกักตัวนั้น ขณะนี้ได้ตามตัวได้ 10 คน และยังเหลืออีก 6 คน โดยนำแรงงาน 10 คน ที่ได้ตามตัวมาได้นั้น ได้นำไปตรวจหาเชื้อและกักตัวที่รีสอร์ทย่านลาดหลุมแก้ว ส่วนแนวโน้มสถานการณ์อื่น ๆ ถือว่าดีขึ้น

ด้านประเด็นการปกปิดข้อมูล นายชิตชัย ปรีชาบุญฤทธิ์ อายุ 65 ปี (สามีเจ๊หยก) เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อที่ตลาดพรพัฒน์และตลาดสุชาติ หลังจากมีการสั่งปิดตลาดไปนั้น วันรุ่งขึ้นตนได้ส่งคนงานเข้าไปตรวจทันที รวมถึงภายหลัง อบจ.ปทุมธานี ได้ตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและควบคุมโรค ตนได้ส่งลูกน้องไปตรวจซ้ำอีกคนนึงไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง โดยลูกน้องที่ไปตรวจจะมีบัตรคิวมาแสดงให้เห็นว่าไปตรวจมาจริง แต่ก็ไม่มีคนงานติดเชื้อ

เมื่อเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขโทรมาแจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อ ตนจึงประสานกับโรงพยาบาลเอกชนนำรถมาตรวจ ซึ่งมีหลักฐานรูปถ่ายและเอกสารรวมถึงใบเสร็จการจ่ายเงินชัดเจน จึงพบว่ามีพนักงานติดอีก 26 คน รวมถึงเจ๊หยกซึ่งเป็นภรรยาด้วย จึงได้ประกาศปิดโรงงานทันที      

จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจ ตนขอยืนยันว่าทางเราไม่มีเจตนาหรือพฤติกรรมที่จะปิดบังข้อมูลและไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด น่าจะเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่ลูกน้องไปตรวจแล้ว ไม่ได้แจ้งว่ามาจากโรงงานเจ๊หยกก็เป็นไปได้

ส่วนแรงงานที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัวอยู่ น่าจะเป็นแรงงานที่มารับจ้างรายวันและพักอาศัยที่ตลาดสุชาติ ซึ่งตนยังไม่เห็นเอกสารว่าเป็นใครบ้าง ถึงไม่สามารถจะช่วยเหลือได้ อีกทั้งตนเองและครอบครัวยังกักกันตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนหรือติดต่อกับใคร ส่วนภรรยาตนเอง หรือเจ๊หยกก็ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่อาการดีขึ้นมากแล้ว ขอยืนยันอีกครั้งว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตลอด

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kuRVgI09Pxs