ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร คุมตัวนางสาววาสนา และนายเมฆ 2 ผู้ต้องหาเข้าไปชี้จุดภายในบ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านของนางสาววาสนา ที่เป็นสถานที่ที่นายเมฆใช้อาวุธมีดแทงนายสุบิน เกตุหิรัญ เสียชีวิต และร่วมกันหั่นศพนายสุบินเป็นท่อนๆ ใส่ถุงพลาสติกสีดำ นำไวนิลมาห่อร่างช่วงลำตัวระหว่างคุมตัวไปทำแผนนั้น

โดยนายเมฆ ที่เป็นหลานชาย วัย 23 ปี ระบุว่า ตนเป็นคนแทงนายสุบินเอง เพราะเห็นทั้งคู่กำลังทะเลาะกันในห้องโถงชั้นล่างของบ้าน ทำให้นายเมฆ หลานชายทนไม่ไหว หยิบมีดสปาต้าที่นำมาเเทงเข้าไปที่ราวนม 1 ครั้งจนเสียชีวิต

จากนั้นตำรวจคุมตัวไปทำแผนที่ร้านสะดวกซี้อ ที่ไปซื้อถุงพลาสติกสีดำ ก่อนจะนำตัวไปชี้จุดที่ปั๊มน้ำมันย่านรัตนาธิเบศร์ ที่ทั้งคู่ไปซื้อน้ำมัน 140 บาทใส่ถัง เพื่อใช้เผาอำพรางศพ ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหามาถึงบริเวณ ข้างทางถนน 347 โดยตำรวจนำผู้ต้องมาลงชี้จุดทิ้งแขนของนายสุบิน จำนวน 6 ท่อน ก่อนเดินทางไปจุดพบศีรษะ ที่บริเวณถนนสาย356 อยู่ห่างจากจุดทิ้งแขนขาประมาณ 10 กิโลเมตร

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาลงมาชี้จุดทิ้งลำตัว บริเวณป่า ใน ซ.โรงอิฐบล็อก หมู่ 4 ตำบลชะแมบ อำเภอวังน้อย ห่างมาอีกราว 40 กิโลเมตร

นางสาววาสนา ผู้ต้องหาในคดีนี้ และเป็นภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ตนถูกรังแกมาตลอด 20 ปี แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จะลงมือ หนักสุดคือเอากาน้ำฟาดศีรษะแตก ต้องเย็บกว่า 10 เข็ม วันเกิดเหตุตนเหลืออด จริงๆ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น ยืนยันไม่มีการมาดูลาดเลา หรือวางแผนมาก่อน

โดยหลังจากนี้ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มเติม และหากการสอบปากคำแล้วเสร็จ จะส่งฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุทธยา ในวันนี้ (4 มี.ค.64) 

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hMpLw_ptz2w