เกิดเหตุการณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้งนากยเทศบาลตำบลดอนทราย อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ถูกยิงเสียชีวิต ในศาลาวัดขณะร่วมงานศพ และมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บอีก 4 คน วันนี้ (2 มี.ค.) ผู้ก่อคดีได้เข้ามอบตัวแล้ว เป็นน้องสามีของผู้เสียชีวิต ที่ยิงพี่สะใภ้ เพื่อตัดคู่แข่งชิงตำแหน่งนายกเทศบาล ที่ภรรยาตนเองได้ลงสมัครด้วย 

เสียงปืนดังขึ้น ท่ามกลางเสียงสวดพระอภิธรรมในงานศพ เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่วัดท่ามะขาม ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ทันทีที่เสียงปืนสงบลง พบผู้บาดเจ็บทั้งหมด 5 ราย ถูกส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 ราย 

ลูกสาวผู้เสียชีวิต ระบุว่า การเสียชีวิตของ นางวราพร เนียมรักษา มารดา เชื่อว่ามาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น ที่นำทีมลงสมัคร สท. แข่งขันกับทีมผู้สมัครอีกฝ่าย ซึ่งเป็นญาติกัน แต่คะแนนเสียงของมารดาน่าจะมีโอกาสชนะมากกว่า และผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใคร ปักใจว่าเป็นอาของตนเอง ซึ่งเป็นอดีตกำนัน และยังเป็นอดีตตำรวจ อย่างแน่นอน 

เช่นเดียวกับพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ที่กล้ายืนยันว่า น้องชายคนสุดท้องเป็นผู้ก่อเหตุยิงภรรยาของตน ที่เพิ่งเกษียณจากครูมาลงสมัครเลือกตั้ง สท.สมัยแรก ส่วนภรรยาของน้องชายเป็นฐานเสียงเดิมที่ครองตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย มาร่วม 8 ปีแล้ว และยังระบุว่าน้องชายเคยก่อคดีมาแล้วหลายคดี

ตำรวจได้ออกหมายจับนายวันชาติ เนียมรักษา หรือ สจ.ชาติ เมื่อเช้านี้ โดยในช่วงบ่าย นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ได้พานายวันชาติมามอบตัว กับตำรวจที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ในเบื้องต้นให้การปฏิเสธ พร้อมขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี แต่ตำรวจได้คัดค้าน และอยู่ระหว่างการสอบสวนว่านายวันชาติ ลงมือเพียงคนเดียว หรือมีผู้ร่วมอื่นหรือไม่

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้วัดวิถีกระสุนปืน เพื่อจำลองว่าผู้ตายยิงมาจากจุดใด และเล็งสังหารไปที่ใครบ้าง

นางวราพร ซึ่งนั่งฟังพระสวด ถูกยิงเป็นคนแรก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 4 คน คือนายยิ่งพันธ์ กันเกตุ หรือกำนันโทน กำนัน ต.ดอนทราย ซึ่งที่ผ่านมานายยิ่งพันธ์ ไม่ยกมือสนับสนุนให้ลูกนายวันชาติขึ้นเป็นกำนัน ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 คน บางคนเป็นผู้สมัครเทศบาล ต.ดอนทราย การเสียชีวิตของนางวราพร ผู้นำทีมลงสมัครแข่งขันหมายเลข 2 ซึ่งลงท้าชิงกับทีมผู้สมัครหมายเลข 1 ก็ทำให้เหลือผู้สมัครทีมเดียวเท่านั้น 

คดีนี้ถือเป็นกรณีศึกษาในการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่มีการชิงตำแหน่งนายกเทศบาลกันเพียง 2 คน ซึ่งทั้งสองเป็นสะใภ้ในครอบครัวเดียวกัน หากตำรวจขยายผลพบว่า ผู้สมัครที่เป็นภรรยาผู้ต้องหา เกี่ยวข้องกับคดี ก็อาจถูกตัดสิทธิ์ จนต้องเปิดรับสมัครใหม่ แต่หากผลทางคดีไม่เกี่ยวข้อง แล้วการเลือกตั้งต้องดำเนินต่อไปโดยไร้คู่แข่ง ภรรยาผู้ต้องหารายนี้ ก็ต้องเอาชนะจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ได้ จึงจะถือว่า ชนะการเลือกตั้ง

แต่ขณะนี้ เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากคนในพื้นที่ ให้ กกต.พิจารณา เปิดสมัครรับเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นในพื้นที่หลายจังหวัดที่มีแข่งขันกันเพียง 2 คนแบบนี้ ผู้สมัครอาจใช้วิธีตัดคู่แข่งในลักษณะเดียวกันได้