ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ออกมาประท้วงตามท้องถนนอีกครั้งวันนี้ หลังจากเมื่อวานนี้ ตำรวจเมียนมา ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง ครั้งนองเลือดที่สุดในรอบ 1 เดือน นับตั้งแต่รัฐประหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน บาดเจ็บอีก 30 คน

ในวันนี้ (1 มี.ค.) สถานการณ์ชุมนุมประท้วงในนครย่างกุ้งและทวายยังคงรุนแรง ตำรวจปราบจลาจล ได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วง เพื่อสลายการชุมนุมบนท้องถนนสายต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากผู้ประท้วงเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อ โดยไม่เกรงกลัว แม้ตำรวจจะใช้กำลังปราบปรามผู้ก่อเหตุวุ่นวายอย่างหนักไปเมื่อวานนี้

การสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงเมื่อวานนี้นับว่า รุนแรงที่สุด ตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตำรวจใช้ทั้งแก๊สน้ำตา , ฉีดน้ำแรงดันสูง รวมไปถึงกระสุนจริง กับผู้ประท้วง ในหลายเมือง ตั้งแต่นครย่างกุ้ง , ทวาย , มัณฑะเลย์ , มะริด , พะโค และ ปะโคะกุ มีผู้เสียชีวิต 18 คน ในจำนวนนี้ บาดเจ็บ 30 คน และผู้ประท้วงอีกนับพันคน ถูกจับกุม

ขณะที่ในวันนี้ศาลเมียนมาเริ่มไต่สวนคดีนางอองซาน ซูจี อีกครั้ง การไต่สวนมีขึ้นผ่านทางวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ ศาลยังได้ตั้งข้อหาซูจีเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ เผยแพร่ข้อมูลที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัว ตื่นตระหนก และทำลายความสงบ ขณะที่การไต่สวนคดีครั้งต่อไปจะมีขึ้นวันที่ 15 มีนาคม

ก่อนหน้านี้ซูจีถูกตั้งข้อหาแล้ว 2 ข้อหาคือ นำเข้าวิทยุสื่อสารผิดกฏหมาย และละเมิดกฏหมายจัดการภัยพิบัติกรณีการป้องการการแพร่ระบาดโควิด-19