นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เปิดเผยว่า จนถึงช่วงเย็นวันนี้ ยังไม่มีคำสั่งจากศาลอุทธรณ์ในการให้ประกันตัว 8 แกนนำ กปปส. ทำให้คืนนี้ทั้งหมดต้องถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และวันพรุ่งนี้ ทนายความจะมาติดตามผลจากศาลอุทธรณ์ ซึ่งตลอดทั้งวันนี้ อดีตแกนนำ กปปส.รวมถึง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างไปเยี่ยม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รวมทั้งอดีตรัฐมนตรี ทั้งนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ นายถาวร เสนเนียม และนายพุทธิพงษ์ ปุณกันต์ และรอลุ้นให้ได้รับการประกันตัว

สำหรับ 3 รัฐมนตรีที่สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการะทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐต้องไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ว่ามีข้อตกลงกันอย่างไร จึงเสนอมาให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอน และต้องเร็วที่สุด

การปรับคณะรัฐมนตรี จึงจับตาไปที่พรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจาก 3 ตำแหน่งที่สิ้นสุดลง เป็นพรรคพลังประชารัฐ 2 ตำแหน่ง ซึ่งมีรายงานข่าวว่ากลุ่มการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ ต่างคาดหวังที่จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ที่มีทั้งกระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงดีอีเอส ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าต้องถามนายกรัฐมนตรี เพราะส่วนตัวจะไม่เสนอชื่อใครทั้งนั้น รวมทั้งต้องพิจารณาจากสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลที่ตกลงกันไว้

ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีการนัดทานอาหารกลางวันกับ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ทำเนียบรัฐบาล ยืนยันว่าไม่ได้หารือเพื่อต่อรองหรือวิ่งเต้นเก้าอี้ และนายกรัฐมนตรีไม่มีการส่งสัญญาณการปรับ ครม.

ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยคมนาคม พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่ายังต้องเป็นโควต้าของพรรค และมีการส่งสัญญาณภายในว่าจะยังเป็นโควต้าของรัฐมนตรีจากกลุ่ม กปปส.ที่มีชื่อของนายสกลธี ภัททิยกุล แต่ยังมีการปฏิเสธจากทุกฝ่าย โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่ายังต้องเป็นไปตามสัดส่วนพรรคร่วมรัฐบาล

ซึ่งมีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทย มีสิทธิ์ขอโควต้าเพิ่ม จากจำนวนรัฐมนตรี ทำให้วันนี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาพบนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่กระทรวงสาธารณสุข ท่ามกลางกระแสข่าวว่า จะขอยึดเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม

การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ นอกจาก 3 ตำแหน่งที่ขาดคุณสมบัติ จึงต้องจับตาการต่อรองทั้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ภายในพรรคประชาธิปัตย์ และภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ในส่วนตำแหน่ง ส.ส.ที่ถือว่าขาดคุณสมบัติจากการต้องคำพิพากษาให้จำคุกหรือถูกคุมขังโดยหมายศาล ทำให้ต้องพ้นจากการเป็นส.ส.ทั้งนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณและ นายพุทธิพงษ์ ปุณกันต์ พ้นจากส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ จะต้องมีการขยับอันดับส.ส.บัญชีรายชื่อ มา 2 คน คือ นายยุทธนา โพธสุธน และนายต่อศักดิ์ อัศวเหม

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน คือ นายอิสระ สมชัย จะมีการขยับ นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ มาเป็น ส.ส.ใหม่ ส่วน นายถาวร เสนเนียม เป็น ส.ส.เขต จ.สงขลา และ นายชุมพล จุสใส เป็น ส.ส.เขต จ.ชุมพล จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่