วันนี้ (23 ก.พ.64) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามีการประชุมที่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้แจ้งให้นพ.โสภณ เมฆธน ประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกมาพบสื่อมวลชนให้มากขึ้น เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีน

นายอนุทิน ยืนยันว่า ได้มีการประเมินแล้วว่านายกรัฐมนตรีสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และจะต้องเป็นเข็มแรก เพราะเป็นผู้นำประเทศ ซึ่งกรมควบคุมโรคมีวิธีการในการเช็คร่างกายตามหลักสากล ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อใครเป็นพิเศษ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะได้ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ โดยจะเข้ามาจำนวน 117,000 โดส ที่จะเข้ามาพร้อมกับวัคซีนล็อตแรกของซิโนแวคในวันพรุ่งนี้ (24ก.พ.64) 

ซึ่งทางแอสตราเซเนกาเห็นว่า ประเทศไทยยังมีสถานการณ์การระบาดในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา จึงใจดีและจัดมาให้เพื่อควบคุมสถานการณ์ไว้ก่อน ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้ให้ข้อมูล เพราะมีดราม่ากันเยอะ จึงทำให้เกิดการกดดันและเขาก็ไม่กล้าส่งมา หากเราไม่พูดกันเยอะก็คงจะเข้ามาถึงตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้ว ซึ่งทางผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกระทรวงสาธารณสุขก็หามาจนได้ ส่วนกำหนดการในการฉีดให้กับนายกรัฐมนตรีในวันใดนั้น ขอให้ นพ.โสภณ เป็นผู้แถลง

นายอนุทิน ยังชี้แจงว่า หากนายกรัฐมนตรีได้ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาแล้ว ก็จะต้องเว้นประมาณเข็มละ 6 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างนั้นก็ปฏิบัติงานได้ตามปกติ แต่หากเป็นของซีโนแวคจะต้องเว้น 14-28 วัน ซึ่งรายละเอียดจะให้หมอเป็นผู้ชี้แจง ตนเป็นเพียงผู้สนับสนุนให้เกิดความสำเร็จ

นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ในช่วงเริ่มต้นจะเริ่มฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาลก่อน เพราะกรมควบคุมโรคต้องพยายามทำทุกวิถีทางให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชน เพราะต้องสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน 30 นาที และจะต้องให้ยาแก้แพ้ตามอาการ คาดว่าไม่น่าจะมีอะไรมากมายจากผลการวิจัย ส่วนจะฉีดในจังหวัดปทุมธานีหรือไม่นั้น ก็ขอให้หมอเป็นผู้ตอบ ตนไม่ขอตอบในเรื่องนี้แล้วเพราะพ้นหน้าที่ตนแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของแพทย์เพราะเกี่ยวข้องกับหลักทางการแพทย์

นายอนุทินยังกล่าวหยอกล้อกับสื่อมวลชนว่า หากใครได้รับวัคซีนจากซิโนแวค แสดงว่ายังหนุ่ม เพราะอายุไม่เกิน 60 และส่วนตัวจะฉีดต่อจากนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายอนุทินระบุว่า ถ้าเขาให้ฉีดก็จะฉีด