เรื่องของดีเจมะตูม เตชินธ์ เมื่อวานนี้ (21 ก.พ. 64) ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีจัดงานปาร์ตี้วันเกิดที่โรงแรมบันยันทรี สาทร จนมีผู้ติดเชื้อโรควิด-19 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาสอบปากคำ ดีเจมะตูม ประมาณ 30 นาที

จากนั้นดีเจมะตูม ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ รับสารภาพทุกข้อกล่าวหาในความผิดฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยในทางคดีทางทนายความ ได้เตรียมหลักฐานและข้อมูลมามอบให้พนักงานสอบสวนแล้ว ส่วนจะมีการเรียกบุคคลใดมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน

โดย ดีเจมะตูม บอกว่าน้อมรับความผิดทุกอย่าง และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ตนเองออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอยากขอโทษทุกคนที่ถูกพาดพิงจากความประมาทเลินเล่อของตัวเอง ช่วงที่ผ่านมาถือว่าแย่ที่สุดในชีวิต แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากทุกอย่างเกิดจากกระทำของตนเอง ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่สุด หลังจากนี้จะต้องระมัดระวังตัวและมีสติกับการใช้ชีวิตมากขึ้น อีกทั้งยังขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้จากหลายๆ คน

ส่วนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา 2 ครั้ง พบว่าผลตรวจเป็นลบ แต่ยังคงต้องปฏิบัติตัวตามมาตราการของทางกรมควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด

ด้านนายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความ เผยว่า หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงานอัยการ เพื่อส่งศาลพิจารณา ส่วนศาลจะมีคำพิพากษาอย่างนั้น ทางดีเจมะตูม พร้อมน้อมรับทุกกรณี โดยหลังจากสอบสวนเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนได้นำตัวดีเจมะตูม และสำนวนในคดี ส่งพนักงานอัยการศาลแขวงกรุงเทพใต้ พิจารณาสั่งฟ้องศาล 

โดยชั้นพิจารณาศาลสอบคำให้การแล้ว ดีเจมะตูมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงพิพากษาว่า ดีเจมะตูม มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 มาตรา 9,18 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท โดยจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 10,000 บาท 

แต่ไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลย โดยจำเลยต้องมารายตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้งในกำหนด 1 ปี และห้ามมิให้จำเลยร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรม หรือมั่วสุมในสถานที่แออัดในลักษณะเช่นเดียวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ ภายในกำหนด 3 เดือน หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา ม.29,30

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/inrbvOnPuwA