ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศให้รัฐเท็กซัส เป็นพื้นที่ภัยพิบัติร้ายแรง หลังเผชิญกับพายุฤดูหนาวพัดถล่มอย่างหนัก ประชาชนนับล้าน ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าและน้ำประปาขัดข้อง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศภัยพิบัติร้ายแรง ใน 77 เขต ของรัฐเท็กซัส เมื่อวานนี้ เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลกลาง ส่งความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว หลังเกิดพายุฤดูหนาวพัดถล่ม และ อากาศหนาวจัด อุณหภูมิลดต่ำสุดในรอบ 30 ปี ของรัฐเท็กซัส โดยอุณหภูมิติดลบ 18 องศาเซลเซียส เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา 

หิมะที่ตกหนัก และอากาศที่หนาวจัด สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหลายล้านครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ ถนนหนทางถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เผยว่า เขามีแผนที่จะเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยที่รัฐเท็กซัส หากไม่ส่งผลกระทบหรือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ 

จนถึงขณะนี้สภาพอากาศในรัฐเท็กซัส เริ่มเพิ่มสูงขึ้น และสามารถกู้กระแสไฟฟ้า กลับมาใช้ได้ตามปกติเกือบทั่วทั้งรัฐแล้ว แต่มีประชาชนอย่างน้อย 14 ล้านครัวเรือน ไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้ เนื่องจากผลกระทบที่กระแสไฟฟ้าดับ ทำให้ไม่สามารถผลิตน้ำดื่มที่สะอาดได้ รวมทั้งน้ำในท่อน้ำ จับตัวเป็นน้ำแข็ง ทำให้น้ำไม่ไหล ทางการท้องถิ่นแนะนำให้ประชาชนดื่มน้ำจากขวด แทนดื่มจากก็อกน้ำปกติ 

ล่าสุดทางการได้สั่งน้ำดื่มบรรจุขวด 9.9 ล้านขวด เพื่อแจกจ่ายประชาชน โดยได้ระดมทหาร 3 พัน 200 เข้ามาช่วยแจกจ่ายน้ำดื่มให้กับประชาชน ที่ขับรถมารับน้ำดื่ม จนทำให้รถติดเป็นแถวยาว นอกจากรัฐเท็กซัสแล้ว รัฐโอกลาโฮมา และ หลุยเซียนา ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูหนาวด้วย ล่าสุดผู้ว่าการรัฐได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว รายงานระบุว่า สภาพอากาศเลวร้ายจากพายุฤดูหนาวพัดถล่มในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 60 คน