ตำรวจกองปราบปราม และพิสูจน์หลักฐานภูธรภาค 7 พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ระดมสูบน้ำในบ่อหลังบ้านของผู้อำนวยการโรงเรียนคนหนึ่ง ที่สุพรรณบุรี เพื่อหาหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนางสาวมยุรี ยอดพะเนา หรือหลิว หญิงสาวชาวสระแก้ววัย 19 ปี ที่หายไปเมื่อ 8 ปีก่อน 

หลังจากใช้เวลานานเกือบ 5 ชั่วโมงในการตรวจค้น พบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. หรือ.45 จำนวน 5 ปลอก วัตถุคล้ายหัวกระสุนไม่ทราบขนาด จำนวน 5 หัว บริเวณสระหลังบ้านและรอบสวนใต้ต้นมะม่วง

ที่จริงแล้ว นี่คือปืน 2 กระบอกที่ตำรวจตรวจค้นพบในบ้าน ของ ผอ.เมื่อ2-3 สัปดาห์ก่อน เป็นปืนที่มีการขึ้นทะเบียนไว้ถูกต้อง แต่เป้าหมายที่ตำรวจกำลังค้นหา คือปืนขนาด 9 มม. ที่ผอ.เคยครอบครอง เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับหัวกระสุนที่พบในร่างของหลิว ซึ่งถูกยิงด้วย 9 มม.เช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่พบแมกกาซีนของกระสุนปืน 9 มม.บริเวณลานจอดรถ แต่ไม่พบอาวุธปืน 

มีหลักฐานว่า เมื่อ 8 เมษายน 2556 ผอ.คนดังกล่าว แจ้งกับตำรวจภูธรตาพระยา ว่าปืนขนาด 9 มม.หายไป หลังจากรถยนต์แคมรี่ที่ขับอยู่เกิดอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกชน เมื่อ 1มีนาคม 2556 ซึ่งเหตุการณ์รถชน และปืนหาย เกิดขึ้นหลังจากที่หลิวเสียชีวิตไปแล้ว 1 ปี 

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ยอมรับว่า แม้จะไม่ตัดทิ้งประเด็นอื่น แต่ผอ.เป็นบุคคลที่มีน้ำหนักมากที่สุด และก็ยังขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พร้อมยืนยันว่าขั้นตอนจากนี้ต้องสอบพยานบุคคลเพิ่ม รวมถึงผู้ชำนาญการตรวจสอบอาวุธปืน เพื่อให้รัดกุมที่สุด

ขณะที่การประชุมร่วมระหว่างตำรวจภูธรภาค 2 กองปราบปราม และสอบสวนกลาง เห็นตรงกันที่จะสอบปากคำพยานเพิ่ม แม้สอบไปแล้ว 20 ปาก รวมถึงตัวผู้ต้องสงสัยก็เคยสอบปากคำไปแล้ว 1 ครั้ง

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสิ่งใดยืนยันได้ว่า ผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวจะเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ แต่มีข้อมูลว่า ผอ.คนนี้เคยสอนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวัฒนานคร เมื่อปี 2553 นาน ราว 6 เดือน ก่อนจะย้ายไปอำเภอตาพระยา ในปี 2554 และรู้จักคบหากับหลิวที่นั่น กระทั่งปี 2555 หลิวก็หายไป และพบว่าถูกฆาตกรรมทิ้งศพไว้ในไร่อ้อย ห่างจากโรงเรียนที่ ผอ.เคยทำงานเมื่อปี 2553 ไม่ถึง 2 กิโลเมตรเท่านั้น