ศึกซักฟอก วันที่ 3 เดือดต่อเนื่อง พุ่งเป้ารัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ประเด็นการทุจริต

เลือกตั้งและการเมือง

ศึกซักฟอก วันที่ 3 เดือดต่อเนื่อง พุ่งเป้ารัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ประเด็นการทุจริต

โดย weerawit_c

19 ก.พ. 2564

16 views

วันที่ 3 การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เปิดฉากได้อย่างดุเดือด จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้นำหลักฐานมากล่าวหาว่านายจุรินทร์ เกี่ยวข้องกับ การทุจริตทำสัญญาลวงซื้อขายถุงมือยาง ขององค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ที่มีวงเงินทำสัญญากว่า 1 แสนล้านบาท และทำให้รัฐเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท โดยอ้างว่า นายจุรินทร์ มีการแต่งตั้งคนใกล้ชิดเข้าเป็นผู้บริหารใน อคส.และมีการทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทเอกชน ที่มีหลักฐานความผิดปกติว่าไม่ได้ทำธุรกิจประเภทถุงมือยางมาก่อน 



อีกทั้งมีการเร่งรัดทำสัญญา ที่นำคลิปเสียง มาเปิดเผยว่า นายจุรินทร์ อาจมีส่วนรู้เห็นด้วย ซึ่งโครงการมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท แต่กลับอนุมัติในระดับ อคส. ทั้งๆที่ต้องผ่าน ครม.และต้องรายงานต่ออัยการสูงสุดด้วย อีกทั้ง มีการเร่งรัดเบิกเงิน ภายใน 3 วัน อาจทำให้รัฐเสียหายกว่า 2 พันล้านบาทได้ ซึ่งการที่นายจุรินทร์ อ้างว่าเป็นรัฐมนตรี ที่ไม่สามารถเข้าไปสั่งการก้าวก่ายงานของ อคส.ที่เป็นรัฐวิสาหกิจได้นั้น ฟังไม่ขึ้น และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งการยับยั้งโครงการนี้ ทั้งๆที่เคยมีการตั้งกระทู้ถามสดไปแล้ว นายประเสริฐ จึงให้เวลา นายกรัฐมนตรี 15 วัน ดำเนินการปรับครม.ให้นายจุรินทร์ ออกจากตำแหน่ง และแจ้งข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ถ้าไม่ทำ พรรคเพื่อไทย จะยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช.และศาลอาญา ดำเนินคดีกับทั้งสองคน



ขณะที่นายจุรินทร์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา สิ่งที่นายประเสริฐ อภิปราย เป็นข้อมูลเท็จ เพราะตนเองไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทาง หรือแอบสั่งการในที่ลับ ส่วนที่อ้างประธานบอร์ด อคส.เป็นคนสนิทนายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ ผู้ใหญ่หลายคนนั้น ยืนยันว่า ไม่ว่าใครหากทำผิดกฎหมายต้องเข้าคุก ซึ่งหากพบว่าใครทุจริตจะจัดการทั้งทางวินัย แพ่ง อาญา จนถึงที่สุด และผู้อำนวยการอคส.คนใหม่ รายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พบว่าสอบเสร็จแล้ว มีเอกสาร 2,268 แผ่น มีผู้ที่เกี่ยวข้อง กับการกระทำความผิดเพิ่มเติมอีก 3 คน และรายงานการตรวจสอบไปยัง ป.ป.ช.เพื่อประกอบการพิจารณาไต่สวนดำเนินคดี



ซึ่งประเด็นนี้ นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคได้สั่งการฝ่ายกฏหมาย ตรวจสอบการอภิปรายของนายประเสริฐ หากทำให้เสียหายจะยื่นฟ้อง ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา



รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ของ นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายในกรณีมีผลประโยชน์เบื้องหลังโครงการ ’เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจะนะ เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ที่กล่าวหาว่า นายนิพนธ์ ใช้อำนาจรัฐมนตรีโดยมิชอบ ใช้ข้อมูลภายในปล่อยเครือข่ายกว้านซื้อที่ประชาชน เอื้อนายทุนกินส่วนต่างกว่า 12 เท่า จากข้อมูลการซื้อขายเพียง 4 วัน เนื้อที่กว่า 361ไร่ ได้ส่วนต่างไป 147 ล้านบาท และ เร่งรัดออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ ที่เป็นที่ตั้งโครงการนิคมจะนะ ทั้งๆที่มีอีก 14 ตำบลในอำเภอจะนะ ที่รอคอยการออกโฉนดมากว่า 70 ปียังไม่ได้ เบื้องหลังโครงการนี้ยังเข้าข่ายนายทุนคิด ทหารดัน นักการเมืองหาประโยชน์



ขณะที่นายนิพนธ์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา มองว่าข้อมูลของนายประเสริฐพงษ์มีเฉพาะฝ่ายตรงข้ามที่คัดค้านและเป็นเพียงการตัดแปะเท่านั้น กรณีการซื้อขายที่ดิน มีการร้องเรียนไปที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ซึ่งเดือนธ.ค.2563 ได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อแจ้งยุติการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพราะเป็นเรื่องการพิพาทเกี่ยวกับสิทธิครอบครองในที่ดินตามกฎหมายแพ่ง และไม่ได้ออกทับที่ดินสาธารณะ จึงขอให้มั่นใจได้ว่า ไม่มีการออกโฉนดที่ดินเพื่อเอื้อประโยชน์นายทุน การซื้อขายที่ดินในพื้นที่ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร หรือเพื่อการใด



นายประเสริฐพงศ์ ได้แถลงยืนยันว่า เอกสารที่ใช้อภิปรายเป็นของจริง สามารถตรวจสอบได้จากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จึงเสียดายที่นายนิพนธ์ ชี้แจงไม่ตรงประเด็น เน้นเรื่องอดีต เหมือน ขี่ม้าเลียบค่าย หากมั่นใจในความบริสุทธ์ ใจและเครือญาติทำธุรกิจตรงไปตรงมา ก็ขอให้เปิดข้อมูลสารบบที่ดิน ตั้งแต่ปี 2562-63



ประเด็นโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ยังทำให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลุกมาชี้แจงด้วยว่าเป็นโครงการที่มีขึ้นเพื่อพัฒนาพื้นที่เฉพาะ จึงไม่อยากให้นำปัญหาอื่นมาเชื่อมโยงกล่าวหากัน เพราะสภาไม่ใช่ศาล พร้อมทำออกอาการน้อยใจ เดินจากห้องประชุมเพราะไม่มีใครฟัง



สำหรับในช่วงค่ำเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายณัฐฎพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์พวกพ้องในการแต่งตั้งเลขาธิการ สกสค.ที่ไม่มีวุฒิด้านการศึกษาโดยตรง และแก้ไขคุณสมบัติที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ซึ่งพบว่าเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โดยนายณัฐฎพล ปัดไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งและไม่สามารถหาผลประโยชน์จากกรณีนี้ได้เพราะ สกสค.ก็ยังประสบปัญหาการขาดทุน

คุณอาจสนใจ

Related News