นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี ถึงความผิดพลาด บกพร่องในการแก้ปัญหาโควิด-19 ใช้งบประมาณเงินกู้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แบ่งแยกประชาชน ซึ่งตอกย้ำจากภาพของคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนไปยืนต่อคิวรับการเยียวยา และ “ผมขอกล่าวหาว่าท่านเป็นโรคหลงตัวเอง ไม่ยอมรับความผิด”

โดยสิ่งที่เป็นความล้มเหลวอย่างร้ายแรง คือ การปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบแรงงานข้ามชาติเข้ามา เป็นต้นเหตุการระบาดโควิดระลอก 2 ขณะที่การแก้ปัญหาของรัฐบาลกลับประกาศควบคุมพื้นที่ทั้ง 77 จังหวัด แม้ไม่มีโควิด ทำให้คนไทยต้องลำบากกันทั้งประเทศ

ทั้งนี้ นายแพทย์ชลน่าน ได้เปิดแผนผังส่วยโควิด กลุ่มแรกเกี่ยวกับแรงงานเถื่อนแบ่งเป็น 12 กลุ่ม ที่ทำกันเป็นขบวนการ โดย ดาบ จ.ร้อยยี่สิบ จ่ายส่วยที่หัวหน้า อ.6 รุ่น 36 คาดว่ามีแรงงานข้ามชาติมากกว่า 2 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มส่วยคนจีนทำคาสิโน และคอลเซ็นเตอร์ ดำเนินการโดย หมวด ม. จ่ายส่วยเป็นรายครั้ง

นายแพทย์ชลน่าน ยังพุ่งเป้ารัฐมนตรี 3 ป คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา / พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่กระจายอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ กัดเซาะประชาธิปไตย ดังนั้นวันนี้จึงเป็นโอกาสที่จะร่วมลงคะแนนไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นวิธีที่สวยงามที่สุด “หมดเวลาของท่านแล้วความเสียหายที่ท่านทำไว้กับประเทศไทยและคนไทย ประชาชนไม่อาจไว้วางใจให้ท่านบริหารประเทศต่อไปได้ แม้วินาทีเดียว”

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงตอบโต้ นพ.ชลน่านว่า ผู้ที่พาดพิงอาจไม่เข้าใจโครงสร้างการทำงาน เพราะโควิด-19เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินส่งผลกระทบในหลายมิติ หากแก้ปัญหาล่าช้าก็ทำให้สถานการณ์แย่ลง และเกิดความสับสนได้ ซึ่งการทำงานมีความเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง หลายหน่วยงานที่มีกฎหมายและระเบียบต่างกันดังนั้นต้องทำให้ทุกส่วนทำงานบูรณาการร่วมกันไปในทิศทางเดียวกันตามสถานการณ์แต่ละพื้นที่

ทั้งนี้คงไม่มีใครอยากทำให้ทุกคนลำบาก เศรษฐกิจไม่ดี ย้ำว่าการตัดสินใจทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน มีการประชุมของหน่วยงานที่รับผิดชอบ อาจไม่ถูกใจ ไม่ตรงใจ แต่ขอให้เข้าใจว่าทุกคนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งตนคงไม่สามารถบังคับใครให้เห็นชอบได้เพราะนี่คือประชาธิปไตย ใครจะด่า ใครจะว่า ดูถูกเหยียดหยามตนก็นั่งฟัง และทน ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นในสภาด้วยซ้ำ ขออย่ามาหาว่าตนเอาแต่อำนาจ หากตนใช้แต่อำนาจคงไม่ต้องมานั่งแบบนี้ สิ่งสำคัญคือความรักความสามัคคี เข้าใจสถานการณ์โดยไม่บิดเบือนบางอย่างต้องร่วมกันได้ แม้จะเป็นฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาลก็ตาม

ขณะที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายประเด็นการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวและกระบวนการหลบนี้เข้าเมืองว่า เท่าที่ได้ฟัง ไม่เคยเห็นแผนภูมิที่ท่านได้นำมาแสดง แต่ต้องขอเวลาไปสอบสวนดูว่ากระบวนการนั้นดำเนินการมาอย่างไร และต้องขอเวลาการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ระดับล่าง และเมื่อรายละเอียดได้รับแล้ว ก็จะมาชี้แจงให้สมาชิกได้รับทราบ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/4mopEjtsce4