'วิโรจน์' อภิปรายเดือดถล่มปมวัคซีน 'เสี่ยหนู' โต้กลับสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล

เลือกตั้งและการเมือง

'วิโรจน์' อภิปรายเดือดถล่มปมวัคซีน 'เสี่ยหนู' โต้กลับสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล

โดย thichaphat_d

18 ก.พ. 2564

5 views

ศึกซักฟอกวันที่ 2 (17 ก.พ.64) ยังเดือดต่อเนื่อง ฝ่ายค้านพุ่งเป้านายกรัฐมนตรี หยิบประเด็นร้อน เรื่องการบริหารจัดการวัคซีนล่าช้า และความผิดพลาดทำให้ไทยเสียโอกาสมาถล่ม


โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายโจมตีการจัดซื้อวัคซีนล่าช้า ทำปัญหาปากท้องลากยาว  ซัดจัดซื้อแอสตราเซเนการายเดียวเอาชีวิตคนไทยไปเสี่ยง ท้าเปิดสัญญาจัดซื้อวัคซีน ชี้ความเลวร้ายที่สุดของรัฐบาล คือ ทำให้ไทยเสียโอกาสในการจัดหาวัคซีนจากโคแวกซ์ ทั้งที่ปัจจุบันมีประเทศต่างๆเข้าร่วมโคแวกซ์แล้ว 172 ประเทศ อาเซียนเข้าร่วมทุกประเทศยกเว้นประเทศไทย


พร้อมเปิดประเด็นร้อนว่า ศบค.อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อให้สยามไบโอไซเอนซ์ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และเชื่อได้ว่าการที่รัฐบาลจัดหาวัคซีนจากแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดสนั้น เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้แอสตราเซเนกาเลือกสยามไบโอไซเอนซ์พร้อมท้าให้เปิดเผยสัญญา จะได้รู้ว่าไทยซื้อแพงกว่าประเทศอื่นหรือไม่


โดยจากการอภิปรายดังกล่าวส่งผลให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ทั้งนายไพบูลย์ นิติตะวัน, นายสิระ เจนจาคะ และน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ พากันลุกขึ้นประท้วง โดยมีช่วงหนึ่งที่นายสิระ ระบุว่า "พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรืออย่างไร พูดเรื่องสถาบัน” ขณะที่ น.ส.ปารีณา ประสานเสียง ระบุว่า “จริงๆแล้วบิดาเขาตัวดีเลย ไลฟ์สดจนถูกดำเนินคดีมาตรา 112  อาจเป็นเหตุให้นายวิโรจน์พาดพิงสถาบันไม่หยุด” จากนั้น ทั้งคู่ก็ถอนคำพูด


นายวิโรจน์ ได้กล่าวสรุปตอนท้ายว่า สิ้นหวัง สิ้นอนาคต ทั้งนายอนุทิน และพล.อ.ประยุทธ์ แค่ตนต้องต้องเดินเฉียดใกล้ยังรู้สึกลำบากใจ แค่คิดว่าต้องหายใจเอาอากาศร่วมกันกับสองคนนี้ ผมก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก


ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจง บอกไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เพราะตัวเองไม่ใช่นักโต้วาที ซึ่งการบริหารจัดการเศรษฐกิจและโควิด ตนเองทราบดีว่าประชาชนเดือดร้อนและอาจจะรู้มากกว่าทุกคน พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่มีอำนาจสั่งทั้งหมด


นายกฯ แสดงความกังวลว่า หากพูดถึงวัคซีนมากๆจะกลายเป็นปัญหาว่าต้นทางจะส่งมาหรือไม่ จึงขอให้ระมัดระวังและรับผิดชอบหากกลายมาเป็นปัญหา พร้อมทั้ง ขออย่าโยงเป็นเรื่องการเมืองจนมีปัญหาและจำคำพูดตัวเองไว้ด้วย หากต้นทางไม่ส่งวัคซีนมาให้เพราะเป็นสาเหตุมาจากเรื่องการอภิปรายในสภาครั้งนี้ "ก็ต้องมีเรื่องกัน"


ขณะที่นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โต้เดือด ส.ส.วิโรจน์บอก สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล แล้วคนที่เข้าคุณสมบัตินี้มาใช้สภากล่าวโกหกให้เกิดความสับสนกับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพของประชาชนท่ามกลางโรคระบาดที่ร้ายแรง ใช้ข้อมูลในโซเชียลมีเดียที่ไม่มีข้อเท็จจริงมาเผยแพร่ และที่บอกว่า “ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเป็นคนที่น่ารังเกียจ ไม่อยากอยู่ใกล้ เมื่อกี้เจอกันหน้าห้องน้ำมากราบแทบถึงอก


นายอนุทิน กล่าวต่อ เราไม่ได้เกียจกัน ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ ถ้าผมพูดว่าขึ้นมานำแอลกอฮอล์มาฉีดเนคไทบ้างจะรู้สึกอย่างไร ยันวัคซีนโควิดล็อตแรกมาถึงไทยแน่ภายในเดือน ก.พ. เร่งดำเนินการให้ครอบคลุมคนไทยทั้งประเทศ


ขณะที่บรรยากาศด้านนอกห้องประชุม ก็ร้อนไม่แพ้กัน  ทีมสาธารณสุขตั้งโต๊ะแถลงทันที ตอบโต้ ส.ส.ก้าวไกล ปมซักฟอกวัคซีน  โดย ผอ.สถาบันวัคซีน กางเอกสารบริษัทแอตราเซเนก้า ส่งจดหมายเลือกไทย เป็นหนึ่งใน 60 บริษัททั่วโลก ร่วมผลิต พร้อมยืนยันได้ว่า วัคซีนจากบริษัทแอตราเซเนกามีความเท่าเทียมกับ วัคซีนยี่ห้ออื่น พร้อมระบุถึงเรื่องความเสี่ยง ที่ต้องฉีดให้กับบุคคลสูงอายุว่า ยึดตามหลักขององค์การอนามัยโลกที่ยืนยันว่า วัคซีนแอตราเซเนก้าเหมาะกับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งไทยขอยึดผลการวิจัยของหน่วยงานที่เป็นกลาง ที่ได้รับการยอมรับในสากลเท่านั้น


ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภาพรวมการฉีควัคซีน ระยะแรก ภายในเดือนกุมภาพันธ์ โดยกลุ่มแรกที่ฉีดจะเป็นพื้นที่เสี่ยง คือ สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล อาชีพเสี่ยง โดยการวางแผนการฉีดวัคซีนให้บริการเจ็ดเดือนสาม 63,000,000 โดส ซึ่งจะทำการฉีคในโรงพยาบาล 1000 แห่ง แห่งละฉีด 500 โด๊ส เป็นเวลา 20 วันต่อเดือน เฉลี่ยต่อเดือน 10 ล้านโดส


ขณะที่ ส.ส.วิโรจน์ ตามจิกต่อ นอกห้องประชุม แถลงหลัง สธ. เผยยังคาใจ รมว.อนุทินว่า มีความมั่นใจได้อย่างไร ในการผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาในประเทศไทย ที่ดำเนินการโดยบริษัทเอกชนที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีเพียงไม่นานจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะกรณีนี้แม้แต่โรงงานที่ประเทศเบลเยี่ยมที่มีประสบการณ์มา 20 ปี ก็ยังพบปัญหาระหว่างการผลิต พร้อมตั้งข้อสังเกต จากการเเถลงของกระทรวงสาธารณสุข คือการที่ระบุว่า ขีดความสามารถของแต่ละโรงพยาบาล สามารถฉีดได้ 500 โดสต่อวัน รวมแล้วจะสามารถฉีดได้ 10 ล้านโดสต่อเดือน หากมีวัคซีนเพียงพอ ซึ่งเรื่องนี้เราต้องมาติดตามดูกันอีกทีว่าวัคซีนจะมาตามแผนหรือไม่


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WHVbNtdimBQ


คุณอาจสนใจ

Related News