วันที่ 16 ก.พ. เป็นวันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รวม 10 คน ซึ่งฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า มีข้อมูลลับธุรกิจสีเทาเชื่อมโยงบุคคลในรัฐบาล ซึ่งจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดในการอภิปรายครั้งนี้ 

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานคณะกรรมการการเมือง ในฐานะประธานคณะทำงานตู้ต้านโกง พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังเปิดตู้ต้านโกง รับเรื่องร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชันจากประชาชน ทำให้ได้ข้อมูลลับจำนวนมาก หลายเรื่องเกี่ยวกับเครือข่ายธุรกิจสีเทาและสีดำที่เชื่อมโยงรัฐบาล ทั้งรัฐมนตรี ข้าราชการ ตำรวจและทหาร ที่มีการเอื้อประโยชน์กันอย่างเป็นระบบ รวมถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ โดยข้อมูลที่ได้รับมาทั้งหมดจะส่งต่อให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 

ด้าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้เสียงในสภาจะไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่เชื่อในศรัทธาของประชาชน ซึ่งหลังการอภิปรายจะส่งเรื่องให้ศาลดำเนินการทางกฎหมาย โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรง และกลุ่มที่ทุจริตทำผิดกฎหมายแสวงหาผลประโยชน์ชัดเจน

ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า รัฐมนตรีทุกคนมีความมั่นใจที่จะชี้แจง และตอบคำถามอย่างตรงประเด็นไม่ต้องอ้อมค้อม ส่วนประเด็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่เป็นพรรคเล็กออกมาแสดงความไม่สบายใจการอภิปรายนั้น ยืนยันว่าการติวเข้มการอภิปรายเมื่อวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาทุกพรรคก็อยู่ด้วยกันตลอด และไม่ได้มองว่าใครเป็นพรรคเล็ก เพราะทุกพรรคเท่าเทียมกัน ส่วนกรณีของ นายระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะโหวตไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่นั้น มองว่าเป็นสิทธิของแต่ละพรรค

ลำดับการอภิปราย จะเปิดญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นจะเป็นการอภิปรายภาพรวมของ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ประมาณ 2 ชั่วโมง และจะเข้าสู่เนื้อหาการอภิปรายนายกรัฐมนตรีเป็นคนแรก โดยจะเริ่มจากนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ต่อด้วย พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย จากนั้นจะเป็นการสลับสับเปลี่ยนการอภิปรายระหว่าง ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล