ก.ยุติธรรม จัดตั้งศูนย์ JSOC ดูแล ปชช. กลับยังมีคดีฆ่าข่มขืนซ้ำซาก สังคมถามถึงเวลาต้องแก้ข้อกฎหมายแล้วหรือยัง?

อาชญากรรม

ก.ยุติธรรม จัดตั้งศูนย์ JSOC ดูแล ปชช. กลับยังมีคดีฆ่าข่มขืนซ้ำซาก สังคมถามถึงเวลาต้องแก้ข้อกฎหมายแล้วหรือยัง?

โดย weerawit_c

13 ก.พ. 2564

47 views

นครราชสีมา - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก นายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ หรือ แหบ อายุ 24 ปี ฆาตกรฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 9 ปี ที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ที่ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา 


ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ช่วงหัวค่ำก่อนเกิดเหตุตนเองได้ดื่มเหล้าขาวกับเพื่อนจนเมา แล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงอาศัยช่วงจังหวะที่พ่อแม่ของเด็กหญิงไม่อยู่บ้าน พาตัวเด็กหญิงไปข่มขืนที่ห้องน้ำบ้านของตัวเอง 1 ครั้ง และในป่าละเมาะหลังบ้านอีก 1 ครั้ง รวมข่มขืนเด็กหญิงทั้งหมด 2 ครั้ง ซึ่งระหว่างนั้นเด็กหญิงได้ขัดขืน และพยายามร้องขอความช่วยเหลือ ผู้ต้องหาจึงทำร้ายบีบคอเด็กหญิงจนเสียชีวิต และได้ใช้ผ้าห่มห่อร่างของเด็กหญิงทิ้งไว้ในป่าละเมาะ ห่างจากบ้านพักของเด็กประมาณ 200 เมตร


โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหาหนักกับนายอนุวัฒน์ ประกอบด้วย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี


ส่วนเรื่องการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หารือกันแล้วว่าจะไม่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาอาจโดนรุมประชาทัณฑ์ เนื่องจากบริเวณสถานที่เกิดเหตุเป็นชุมชนค่อนข้างแออัด และมีชาวบ้านอยู่รวมกันจำนวนมาก ทำให้การดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทำได้ลำบาก


จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่า นายอนุวัฒน์ ผู้ต้องหารายนี้ เคยก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรามาหแล้วหลายครั้ง โดยก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อปี 2553 ที่ สภ.นาทม จ.นครพนม ปี 2558 ก่อเหตุกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี เหตุเกิดที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา และล่าสุดเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 2 เดือนก็มาก่อเหตุฆ่าข่มขืนเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ในพื้นที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา


ด้านนางฤทัยรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี แม่ของเด็กหญิงที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทำใจได้บ้างแล้ว หลังคนร้ายถูกจับกุมดำเนินคดี แต่ไม่ขอให้อภัยกับการกระทำอันโหดร้ายผิดมนุษย์ของไอ้แหบ และอยากให้รับโทษสถานเดียว คือ ประหารชีวิต เพราะหากถูกปล่อยให้กลับออกมา มั่นใจว่าไอ้แหบจะกลับมามีพฤติกรรมแบบเดิมอีก อยากให้ลูกสาวเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของผู้ต้องหา ไม่อยากให้มีโอกาสมากระทำรุนแรงกับเด็กคนอื่นซ้ำอีก


ขณะที่นางสมจิตร ผลจะโปะ อายุ 77 ปี ย่าของผู้ต้องหา เปิดเผยด้วยสีหน้าเศร้าเสียใจว่า เสียใจมากที่หลานชายก่อคดีโหดร้ายกับเด็กหญิงวัยแค่ 9 ขวบ แม้จะพร่ำสอนให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี หลังเคยติดคุกมาแล้ว แต่หลานชายก็ไม่เชื่อฟัง ซ้ำยังบอกว่าอยากกลับไปติดคุกอีกเพราะออกมาก็ไม่มีงานทำ ไม่มีความสุข


ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยธ. เผยว่า ที่ผ่านมาตนจึงตั้งศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน หรือ JSOC ขึ้นมาเพื่อเฝ้าระวัง เนื่องจากผู้พ้นโทษหลายคนมีโอกาสทำผิดซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มปล้นฆ่า ข่มขืน เพราะที่ผ่านมา มีผู้ก่อเหตุหรือก่ออาชญากรรมซ้ำจำนวนมาก โดยแยกอดีตผู้ต้องขังที่พ้นโทษเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเฝ้าระวัง 1 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องขังในคดีสะเทือนขวัญมี 7 ฐานความผิดคือ 1.ฆ่าข่มขืน 2.ฆ่าข่มขืนเด็ก 3.ฆาตกรต่อเนื่อง 4.ฆาตกรโรคจิต 5.สังหารหมู่ 6.ชิงทรัพย์โดยการปล้นฆ่า และ 7.นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่ได้รับการปล่อยตัวเพราะพ้นโทษตามกฎหมาย และกลุ่มเฝ้าระวัง 2 เป็นผู้ที่พ้นโทษ แต่เป็นคดีที่น่าสนใจ และอาจเป็นภัยต่อสังคม จึงต้องเฝ้าระวังพิเศษ 


ซึ่งกรณีของ นายอนุวัฒน์ จะถูกขึ้นบัญชีไว้ในกลุ่มนี้ด้วย ทั้งนี้ตนพูดคุยกับทางจิตแพทย์ ทราบว่าพวกที่ก่อคดีข่มขืนเด็กนั้นเป็นผู้มีปัญหาทางจิต เป็นเรื่องที่แก้ไขและรักษาได้ยาก ในส่วนของประเทศที่เจริญแล้ว เขาจะใช้วิธีการควบคุมและติดตาม โดยการติดกำไล EM ตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้ไปทำร้ายใครได้อีก ในส่วนของประเทศไทยนั้น ในอนาคตเราอาจจะต้องแก้หรือเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เพื่อให้งานของศูนย์ JSOC เพื่อให้สามารถทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นอย่างมีประสิทธิภาพและชัดเจนมากขึ้น รวมถึงต้องสร้างการรับรู้ให้กับชุมชนต่างๆเพื่อช่วยกันเฝ้าระวัง


ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/6YDz_wYSbLw

คุณอาจสนใจ

Related News