นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงชี้มูล นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณียึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลรางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี รวม 711 ไร่เศษ คำนวณเป็นค่าเสียหาย 36 ล้านบาท

โดย ป.ป.ช. ได้ลงรายละเอียดพฤติการณ์ในการเข้าครอบครองที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่พ่อของ น.ส.ปารีณา คือนายทวี ไกรคุปต์ เข้าไปครอบครองก่อน จากนั้นโอนมาให้ น.ส.ปารีณา และเมื่อจะมีการนำพื้นที่ดังกล่าวไปปฏิรูปที่ดิน น.ส.ปารีณาก็กระจายที่ดินให้เป็นชื่อของแรงงานในฟาร์ม ก่อนจะโอนกลับมาเป็นของตัวเอง

จากนี้ ป.ป.ช.จะส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา ภายใน 30 วัน และเมื่อศาลรับคำฟ้อง น.ส.ปารีณา จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ทันที หากศาลตัดสินว่าผิด จะต้องพ้นจาก ส.ส.นับจากวันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ , ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และไม่มีสิทธิสมัคร ส.ส. รวมทั้ง ส.ว.หรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป หมายความว่าจะกลับมาเป็น ส.ส.ไม่ได้ตลอดชีวิต

ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการ ไต่สวนข้อเท็จจริง หลังจาก น.ส.ปารีณา ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 โดยระบุว่ามีรายการที่ดินตามแบบแสดงรายการที่ดินเพื่อชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท. 5 จำนวน 29 แปลง พื้นที่ประมาณ 853 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ต่อมาปรากฏว่า ที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตป่าและเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐตามพระราชบัญญัติป่าไม้

กรมป่าไม้จึงเข้าร้องทุกข์ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ดำเนินคดีอาญากับนางสาวปารีณา ในข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ กรณีนี้ถือเป็นสำนวนแรกของ ส.ส. ที่ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ซึ่ง รองเลขาธิการ ป.ป.ช.บอกว่า ยังมี ส.ส. และนักการเมืองที่ถูกยื่นฟ้องผิดจริยธรรมในลักษณะเดียวกันอีกหลายสิบคน

ด้าน น.ส.ปารีณา ก่อนหน้านี้เเจ้งว่าจะเเถลงชี้เเจงหลัง ป.ป.ช.ชี้มูล เเต่ที่สุดก็ยกเลิก โดยให้เหตุผลกับสื่อมวลชนว่า ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย โดยจะให้ทนายความส่วนตัวชี้แจงอีกครั้งและยืนยันว่าสามารถโต้แย้งกรณีนี้ได้