รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โฆษกกลุ่มราษฎร ประกาศยุติการชุมนุมที่หน้า สน.ปทุมวัน หลังตำรวจ ปล่อยตัวกลุ่มราษฎร 10 คนที่ถูกจับกุมก่อนการชุมนุมที่สกายวอล์ค จนทำให้ รุ้ง ปนัสยา ประกาศเดินขบวนจากหน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลา 19.00 น.มายัง สน.ปทุมวัน เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวทั้ง 10 คน

โดยให้เวลาภายใน 20.30 น.ขอให้ปล่อยตัวทั้งหมด ซึ่งทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่า มีทั้งหมด 8 คน ถูกควบคุมตัวเพราะมีเสื้อเกราะ พลุควัน และมีวิทยุสื่อสาร 2 คน จึงถูกดำเนินคดี เป็นเยาวชนจึงให้ประกันตัว ซึ่งรุ้ง ประกาศว่า การชุมนุมวันแรกในปี 2564 ยังคงยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิมให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยปีนี้ตั้งเป้าจะรณรงค์ให้มาชุมนุมบนท้องถนนให้ถึง 2 ล้านคน และเร่ิมมีข้อเสนอที่มากกว่าการปฏิรูป แต่เรียกร้องให้มีการปฏิวัติของประชาชน จึงต้องสอบถามสังคมว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้เพราะเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการตอบรับข้อเสนอในการปฏิรูป

ระหว่างการชุมนุมที่หน้า สน.ปทุมวัน เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น ที่ด้านหลังสน.ปทุมวัน ซอย จุฬา 16 ซึ่งมีเสียงดังคล้ายประทัด และมีกลุ่มควันเกิดขึ้น ในขณะที่มีการเผชิญหน้าระหว่าง กลุ่มการ์ดราษฎร และตำรวจควบคุมฝูงชน เมื่อมาตรวจสอบ กลุ่มการ์ดราษฎร ระบุว่า เมื่อมีเสียงดังและกลุ่มวัน เกิดขึ้น จึงพากันถอยร่นกลับ สน.ปทุมวัน แต่ไม่นานมีเสียงดังอีกครั้งหนึ่ง และเริ่มมีกลิ่นแก๊สน้ำตา จนกลุ่มการ์ดและสื่อมวลชน รวมถึงประชาชนที่อยู่บริเวรนั้น แสบจมูก และแสบตา จากกลิ่นแก๊สน้ำตา จึงได้รับการปฐมพยาบาล ซึ่งพบลูงยิงแก๊สน้ำตาแบบขว้าง 1 ชิ้น ตกอยู่ รวมถึง บริเวณระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม มี ร่องรอยของพลุควัน ตกอยู่บนพื้น 2-3 ชิ้นด้วย จากนั้น รุ้ง ปนัสยา ได้มาแจ้งขอให้ผู้ชุมนุมกลับไปยังหน้า สน.ปทุมวัน เพื่อยุติการชุมนุม

สำหรับการชุมนุมวันนี้เดิมเป็นการนัดหมายของกลุ่มราษฎรในกิจกรรม รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ เพื่อเรียกร้องผลกระทบเศรษฐกิจจากโควิด แต่หลังมีการฝากขังแกนนำราษฎร 4 คนในคดี 112 ทั้งนายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปฏิวัติ สาหร่ายแย้ม รวมทั้งเรียกร้องให้ยกเลิก มาตรา 112 โดยผู้ชุมนุม นำหม้อ กระทะ มาร่วม ตีเคาะ เป็นสัญลักษณ์ เป็นกิจกรรมคู่ขนานกับการต่อต้านการรัฐประหารของชาวเมียนมา

ซึ่งที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพ ชาวเมียนมา กลุ่มหนึ่งได้มาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยด้วย โดยเป็นห่วงการสลายการชุมนุมและการใช้กระสุนจริงในเมียนมา ทำให้ชาวเมียนมาทั่วโลกต้องออกมาชุมนุม ซึ่งอยากเรียกร้องไปยังทุกชาติพันธุ์ให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อต้านการรัฐประหารด้วย