สถานการณ์การประท้วงการรัฐประหารในเมียนมา ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 4 โดยยังมีประชาชนจำนวนมากออกมาเดินขบวนในหลายเมือง แม้ว่าทางการเมียนมาจะประกาศใช้กฎอัยการศึก และสั่งห้ามประชาชนรวมตัวกันเกิน 5 คน ในหลายเมืองทั่วประเทศก็ตาม

เริ่มที่สถานการณ์ที่กรุงเนปิดอว์ ถือว่าตึงเครียดมากที่สุด มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ในระหว่างการชุมนุม ตามรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมายิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่กลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนที่จะเปิดฉากยิงกระสุนยางใส่ รายงานระบุว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน ในจำนวนดังกล่าวสาหัส 1 คน เป็นผู้หญิง ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ โดยยังไม่ทราบว่ามาจากกระสุนยาง หรือกระสุนจริง 

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง และยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหลายร้อยคน ที่ออกมาเรียกร้องให้กองทัพ คืนอำนาจให้กับรัฐบาลพลเรือน รวมถึงเรียกร้องให้ปล่อยตัว นางอองซานซูจี และผู้นำคนสำคัญของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD 

เช่นเดียวกับที่เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง และยิงแก๊สน้ำตา สลายการชุมนุม แต่กลุ่มฝูงชนก็ยังคงเดินหน้าชุมนุมต่อไป มีรายงานว่าตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมเกือบ 30 คน

ในส่วนของท่าทีต่างชาติ ล่าสุด นิวซีแลนด์ เป็นประเทศแรก ที่ออกมาประกาศตัดสัมพันธ์ทุกด้านกับเมียนมา หลังกองทัพก่อการรัฐประหาร พร้อมกับสั่งห้ามผู้นำกองทัพเมียนมาเดินทางเข้าประเทศ