เครือข่ายกะเหรี่ยง กลุ่มผู้รักความเป็นธรรม และภาคี #saveบางกลอย เตรียมยกระดับการชุมนุมในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในวันนี้ เห็นว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ขณะที่การประชุมคณะทำงานแก้ปัญหาบางกลอยที่รัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น วางกรอบการทำงานสำรวจข้อมูลและแนวทางการแก้ปัญหาภายใน 3 เดือน

กลุ่มประชาชนในนาม ผู้รักความเป็นธรรมและภาคี #Saveบางกลอย ยื่นหนังสือถึงนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้ม โดยมีนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง มารับแทน ก่อนจะประชุมร่วมกับคณะทำงานแก้ไขความเดือดร้อนของชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย จังหวัดเพชรบุรี ที่รัฐมนตรีตั้งขึ้น แต่รัฐมนตรีไม่สามารถลงมาพบกลุ่มประชาชนที่รวมตัวหน้ากระทรวงได้ในเวลา 11.00 น.ตามที่เรียกร้องเนื่องจากมีภารกิจเดินทางไปต่างจังหวัด

ระหว่างนั้นกลุ่มภาคี #Saveบางกลอย จัดเวทีเสวนา คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเป็นธรรมให้กะเหรี่ยงใจแผ่นดิน ที่นายพฤ โอ่โดเชา ตัวแทนชาวกะเหรี่ยง เห็นว่าปัญหาชาวกะเหรี่ยงใจแผ่นดินมีหลักฐานการอาศัยอยู่ก่อนประกาศเขตอุทยาน เมื่อลงมาแล้วขาดที่ทำกิน สภาพพื้นที่ไม่ตรงกับวิถีชีวิต บางส่วนขาดที่ทำกิน ที่ต้องทำไร่หมุนเวียน จึงต้องหวนกลับไปใจแผ่นดิน การแก้ปัญหาเรื่องนี้ รัฐต้องเข้าใจสิทธิความเป็นคนของชาวกะเหรี่ยง ที่เป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมที่อาศัยอยู่กับป่า ซึ่งนักวิชาการย้ำว่า ไร่หมุนเวียนไม่ได้ทำลายป่าแต่รักษาระบบนิเวศน์ และอาจเป็นทางออกของความมั่นคงทางอาหารในสถานการณ์โควิด อย่างที่ทั้งโลกกำลังเผชิญ การหันกลับมายอมรับเรื่องนี้และยอมรับสิทธิความเป็นชนพื้นเมืองของกะเหรี่ยงบางกลอย จึงตรงกับสิ่งที่นักสิทธิมนุษยชน เห็นด้วยว่า การเสนอให้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ยังเป็นปัญหาหากไม่แก้ในสิ่งที่สหประชาติตั้งคำถาม ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวกะเหรี่ยงใจแผ่นดินเมื่อปี 2554 และการหายไปของบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ

เมื่อครบกำหนดเวลารอคำตอบจากรัฐมนตรี กลุ่มภาคีเซฟบางกลอย ได้รวมตัวที่หน้ากระทรวงทรัพย์ ซึ่งตำรวจ สน.บางซื่อ มาแจ้งว่าไม่สามารถจัดชุมนุมได้เพราะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นระหว่างกลุ่มประชาชนกับตำรวจ ที่มีผู้กำกับการสน.บางซื่อ แจ้งว่าถูกประชาชนคนหนึ่งใช้มือปัดที่หู ขณะที่กลุ่มประชาชนบอกว่าถูกตำรวจผลักดันด้วย แต่ได้ยุติการรวมตัวกันในที่สุด

หลังจากหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมาแจ้งผลการประชมุคณะทำงาน ว่าจะมีจัดคณะลงพื้นที่แก้ปัญหาให้ชาวบางกลอยอย่งเร็วที่สุด และไม่สกัดกั้นกรณีจะนำข้าวสารไปบริจาค แต่ขอทำตามขั้นตอนของอุทยาน และย้ำว่ารัฐมนตรีให้ความสำคัญกับปัญหานี้

ขณะที่กลุ่มภาคีเซฟบางกลอย เห็นว่าเรื่องนี้ต้องถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาลด้วย จึงนัดทำกิจกรรมใหญ่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ที่ทำเนียบรัฐบาล