กรณีของ ‘ข้าวโอ๊ต’ AXIS (แอคซิส) ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 647 โดยในไทม์ไลน์พบว่าได้ไปอยู่ที่โรงแรม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันเกิดของ ‘ดีเจมะตูม’ ด้วย ก่อนจะถูกโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังพบว่ามีการปิดบังไทม์ไลน์ 

จากนั้น ข้าวโอ๊ตก็ได้ออกมาเปิดใจกับมดดำ ในรายการแฉ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ปกปิดข้อมูล เพราะได้มีการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ไปมดแล้ว สงสัยเหมือนกันว่าทำไทม์ไลน์ที่ออกมาถึงไม่ตรงกับข้อมูลที่ตนเองได้แจ้งไป โดยข้าวโอ๊ตบอกว่า

วันที่ 8 มกราคม ตนเองได้ยกเค้กไปเซอร์ไพร้ส์มะตูมที่คอนโดย่านลาดพร้าว จากนั้นวันที่ 9 มกราคม ก็ได้เดินทางไปที่โรงแรมบันยันทรี เพื่อไปหาเพื่อนชื่อ ปีโป้ ที่เดินทางมาจากเชียงใหม่ และได้ไปร่วมอยู่ในงานวันเกิดของ ‘มะตูม’ แต่ตนเองไม่ได้เข้าไปภายในงานวันเกิดและไม่ได้เจอใคร เนื่องจากไปถึงประมาณ 3 ทุ่มและงานก็เลิกไปแล้ว ก็เลยไปหา ‘ปีโป้’ ที่ห้องพักในโรงแรม และคาดว่าน่าจะติดเชื้อมาจากปีโป้ ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไปก่อนหน้านี้ 

ส่วนวันที่ 10 – 12 มกราคม อยู่ที่คอนโดกับแฟนและพี่ชาย ไม่ได้ออกไปไหน และวันที่ 12 ก็เริ่มมีอาการคล้ายกับภูมิแพ้ คัดจมูก จึงกินยาแก้แพ้

วันที่ 13 มกราคม เริ่มมีไข้ ลิ้นไม่รับรส เลยทานยาพารา และนอนซมอยู่ที่คอนโด ไม่ได้ออกไปไหน จนกระทั่งทราบข่าวว่า มะตูมติดโควิด วันที่ 21 มกราคม ก็ได้เดินทางไปตรวจ แต่คุณหมอก็ยังไม่แน่ใจกับผลตรวจที่ออกมา คุณหมอจึงให้ตนเองรอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 21 มาจนถึงตอนนี้ และเพิ่งทราบผลว่าตนเองติดเชื้อเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 มกราคม พร้อมขอโทษทั้งน้ำตา ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาปกติหรือหนีความจริงเลย เพียงแค่รอความชัดเจนจากคุณหมอก่อนเท่านั้นเอง และต่อมาทางกรุงเทพมหานครก็ได้เผยไทม์ไลน์ของ ‘ข้าวโอ๊ต’ ออกมาใหม่

ซึ่งต่อมาเมื่อวานนี้ ข้าวโอ๊ตก็ได้ออกมาเผยอีกครั้ง ผ่านทางรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ อัปเดตอาการมีไข้ตัวร้อน ว่ากลับมาเป็นปกติแล้ว พร้อมกับเผยข้อมูลอีกครั้ง ซึ่งมีบางข้อมูลที่บอกไม่ตรงกับที่พูดกับ ‘มดดำ’ ในครั้งแรก ซึ่งตอนแรกบอกว่าไปหา ปีโป้ ที่โรงแรมบันยันทรี ประมาณ 3 ทุ่ม แต่บอกกับ หนุ่ม กรรชัย ว่าหลังจากไปเชคข้อมูลมาใหม่ คือ ตนเองไปหา ปีโป้ ที่โรงแรมประมาณ 5 ทุ่ม แต่ยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่ได้เจอใคร และไม่ได้ขึ้นไปที่ดาดฟ้าที่จัดงาน แต่ไปหา ปีโป้ ที่ห้องพักทันที โดยมีพี่ชายและแฟนตนเองอยู่ในห้องพักดังกล่าวด้วย แต่ที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกับที่บอกมดดำ เพราะตนเองอาจจะตื่นเต้น 

และอีกหนึ่งข้อมูลที่บอกไม่ตรงกับที่พูดครั้งแรกคือ ไทม์ไลน์ วันที่ 12 ที่ตอนแรกบอกว่า มีอาการเหมือนเป็นภูมิแพ้ หายใจไม่ออก จึงกินยาและอยู่ที่คอนโด แต่บอกข้อมูลกับ หนุ่ม กรรชัย ว่าวันที่  12 ตนเองมีไปถ่ายงานกับ เปา กิ่งกาญจน์ ที่สตูดิโอแถวนนทบุรี ซึ่งไม่ตรงกับไทม์ไลน์ที่กรุงเทพมหานครแจ้งออกมา แต่ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว ก็ไม่รู้ทำไมข้อมูลถึงออกมาเป็นแบบนี้

และจากการที่ข้าวโอ๊ต เผยไทม์ไลน์ใหม่ว่าตนเองได้ไปถ่ายงานกับนักร้องสาว เปา กิ่งกาญจน์ เมื่อวันที่ 12 มกราคม ซึ่งภายหลังทราบว่าไปถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลง ที่ AVA TRIVI STUDIO (ชัยพฤกษ์-ราชพฤกษ์) ซึ่งหลังจากที่ เปา ทราบว่า ข้าวโอ๊ตติดเชื้อโควิด เธอก็รีบไปตรวจหาเชื้อโควิดทันที ก่อนจะนำผลตรวจมาไลฟ์แถลงผ่านทางเฟซบุ๊คในช่วงบ่ายวานนี้ 

โดยผลตรวจของ เปา ไม่พบเชื้อโควิด พร้อมกับเผยข้อมูลว่า ตนเองได้ถ่าย MV กับข้าวโอ๊ต ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม และจนมาถึงเมื่อวานนี้ วันที่ 28 มกราคม ซึ่งผ่านมาแล้ว 16 วัน โดยในขณะถ่ายทำในกองถ่าย ก็ได้ทำตามมาตรการควบคุมโรคทุกอย่าง มีการลงทะเบียน ใส่แมสก์ มีเจลแอลกฮอล์ให้ล้างมือ วัดอุณหภูมิ และตัวของเปาเองก็ได้แยกห้องแต่งตัวออกมาเป็นห้องส่วนตัว มีคนอยู่ในห้องแค่ ช่างหน้า 1 คนและช่างผม 1 คน ส่วนนักแสดงคนอื่นที่มาร่วมถ่าย MV จะไปรวมกันอยู่ในห้องใหญ่ ซึ่งก็มีการเว้นระยะห่าง ไม่ได้ใกล้ชิดกันแน่นอน 

โดยฉากที่ถ่ายทำร่วมกับ ‘ข้าวโอ๊ต’ เริ่มถ่ายทำกันประมาณ 3-4 ทุ่ม และก่อนจะมาเข้าซีนถ่ายกับเธอ ข้าวโอ๊ตได้ไปถ่ายกับพระเอก MV และเพื่อนพระเอกอีกคนนึงก่อน เป็นซีนที่เดินลงบันได ส่วนซีนที่ถ่ายกับเธอมีแค่ซีนเดียว ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง และในซีนนั้นก็ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน และแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย เพราะไม่ได้สนิทกันเป็นการส่วนตัว แต่รู้จักกับแฟนของข้าวโอ๊ต และหลังจากถ่ายซีนร่วมกับเธอเสร็จ ข้าวโอ๊ตก็ไม่ได้ซีนถ่ายต่อ และขอตัวกลับบ้านไปก่อน ส่วนตัวของเปา ก็อยู่ถ่ายทำต่อจยถึงตี 2 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกับข้าวโอ๊ตอีกเลย 

และถึงแม้ผลตรวจจะออกมาว่าไม่พบเชื้อ แต่เปาบอกว่าจะกักตัวต่ออีก 14 วันและจะไปตรวจซ้ำอีกครั้ง พร้อมกับชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ที่เธอป่วย เพราะอาหารเป็นพิษ ไม่ได้ติดโควิดแต่อย่างใด