'อนุทิน' ลั่นแก๊งปาร์ตี้ดีเจมะตูม ปกปิดไทม์ไลน์ ต้องถูกดำเนินคดี

สังคม

'อนุทิน' ลั่นแก๊งปาร์ตี้ดีเจมะตูม ปกปิดไทม์ไลน์ ต้องถูกดำเนินคดี

โดย pattraporn_a

27 ม.ค. 2564

40 views

กรณีของดีเจมะตูม ที่จัดงานปาร์ตี้วันเกิดและพบว่าตัวเองติดเชื้อโควิด - 19 ขณะนี้ได้บานปลายและพบว่าหลายคนที่เกี่ยวข้องปกปิดข้อมูล


จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าขณะนี้กรณีดังกล่าวมีผู้ติดเชื้อแล้ว 24 คน โดยเชื่อมโยงกับงานปาร์ตี้สองแห่งที่มีผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกัน โดยแห่งหนึ่งคืองานวันเกิดของดีเจมะตูม และงานปาร์ตี้ในวันที่ 16 ม.ค.


หากดูจากไทม์ไลน์ของผู้ป่วยที่เปิดเผยออกมาโดย กทม. ในวันนี้ จะพบว่ามีผู้ติดเชื้อที่ไม่เปิดเผยประวัติบางช่วงเวลาของ เช่นกรณีของผู้ป่วยคนที่ 647 ของ กทม. ที่เป็นนักร้อง นักแสดงชายวัย 23 ปี คนนี้ไปที่โรงแรมบันยันทรีถึงสองวัน และวันหนึ่งเป็นงานวันเกิดของดีเจมะตูม แต่ ปรากฏว่าผู้ป่วยไม่ยอมให้ข้อมูลของวันที่ 14-20 ม.ค.


หรือในกรณีผู้ป่วยคนที่ 657 ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีข้อมูลว่าคนนี้เป็นผู้จัดการดารา ก็ไม่ยอมเปิดเผยประวัติ บอกแค่เพียงไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนเมื่อวันที่ 16 ม.ค. แต่ไม่ยอมบอกว่า 17-21 ม.ค.ไปไหนมาบ้าง


รวมถึงผู้ป่วยรายที่ 658 ซึ่งมีประวัติไปร่วมงานวันเกิด ดีเจมะตูมที่โรงแรมบันยันทรี โดยรายนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นตำรวจ รายนี้ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ นอกจากว่าไปงานวันเกิด ส่วน 10-12 ม.ค. ก็ไม่ให้ข้อมูล บอกแค่วันที่เริ่มมีอาการคือวันที่ 13 ม.ค. จากนั้น 14-21 ม.ค. ก็ไม่ใช่ข้อมูลเช่นกัน


หรือกรณีผู้ป่วยคนที่ 645 เป็นเชฟร้านอาหารแห่งหนึง กรณีนี้ผู้ป่วยก็ไม่ยอมให้ข้อมูลช่วงระหว่างวันที่ 17-18 ม.ค.


จากการไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามว่าช่วงไทม์ไลน์ที่หายไปและไม่ยอมแจ้ง มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่ และถูกวิจารณ์อย่างหนัก


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันในรายการโหนกระแส ว่าผู้ที่ปกปิดข้อมูล ถือว่ามีความผิด เพราะต้องให้ข้อมูลไทม์ไลน์ กับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรค ถ้าไม่ให้ข้อมูลถือว่าไม่ให้ความร่วมมือ ต้องถูกดำเนินคดี


ขณะที่ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. ได้ระบุว่า กรณีการปกปิดข้อมูล ขณะนี้กำลังสอบสวนโรคเพิ่มเติม และหากได้ข้อมูลเพิ่มก็จะอัพเดทไทม์ไลน์ ซึ่งหากยังปกปิดข้อมูลก็จะแจ้งความเพื่อให้ดำเนินตามกฎหมายต่อไป


ซึ่งการปกปิดข้อมูลประวัติ นั้นถือว่ามีความผิดทั้งตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท และยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท


ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่ากรณีนี้ทำไมไม่โดนอะไรเลย เพราะพี่ของเธอเป็นผู้ติดเชื้อจากกรณีร้านอวอร์มอัพที่เชียงใหม่ ได้แค่ตรวจฟรีรอบแรกที่ผลออกมาว่าไม่ติด แต่รอบที่ 2 ต้องเสียเงินตรวจเองและพบว่าติดเชื้อ จากนั้นก็โดนตำรวจยึดมือถือไปตรวจสอบ โดยอ้างว่าจะไปดูว่าไปที่ไหนบ้าง อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าตัวแจ้งว่าได้โทรศัพท์คืนแล้ว


แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ