อุทยานฯแก่งกระจาน ลงพื้นที่ทำความเข้าใจชาวบ้านบางกลอย ปมอพยพกลับใจแผ่นดิน

สังคม

อุทยานฯแก่งกระจาน ลงพื้นที่ทำความเข้าใจชาวบ้านบางกลอย ปมอพยพกลับใจแผ่นดิน

โดย passamon_a

27 ม.ค. 2564

28 views

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพื่อทำความเข้าใจกรณีชาวบ้านบางกลอยบางส่วน อพยพกลับไปที่ใจแผ่นดิน โดยยืนยันพื้นที่บริเวณนั้นไม่สามารถทำกินได้ ขอให้ญาติพี่น้องช่วยพูดคุยให้กลับลงมาเจรจาหาทางออกกับเจ้าหน้าที่ เพราะหากพบผู้กระทำผิดจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่กลุ่มพีมูฟ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จากข้อร้องเรียนของชาวบางกลอย ที่ขาดที่ดินทำกิน


นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วย นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขา เพชรบุรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งปลัดอำเภอแก่งกระจาน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน ตชด. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำความเข้าใจกับชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย ที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แจ้งความคืบหน้าการพัฒนา ที่ล่าสุดจะมีโครงการโซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้าให้กับชาวบ้านทุกครอบครัว


หลังจากมีการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการส่งเสริมการเกษตร โดยมูลนิธิปิดทองหลังพระ และการส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงขอให้ชาวบ้านมั่นใจว่าจะมีการจัดการที่ทำกินให้เพียงพอ ขอให้ชาวบ้านบอกญาติพี่น้องที่อพยพไปใจแผ่นดิน ที่ล่าสุดมีข้อมูลว่า ประมาณ 57 คน ให้กลับลงมาเพื่อเจรจาพูดคุยกัน เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้นไม่ใช่พื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ให้ทำกิน ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 64 


ผู้ใหญ่บ้านบ้านโป่งลึก ชี้แจงว่า กลุ่มที่อพยพน่าจะเป็นพี่น้องบ้านบางกลอย ซึ่งคงต้องทำความเข้าใจ ซึ่งในระหว่างการชี้แจง ตัวแทนชาวบ้านได้สอบถามถึงแนวทางการแก้ปัญหา หากชาวบ้านลงมาแล้ว เพราะเหตุขาดที่ทำกิน และขาดอาหาร จากสถานการณ์โควิด และการบังคับใช้กฏหมาวของเจ้าหน้าที่ จึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก


ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขา เพชรบุรี ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย แต่จะเน้นการพูดคุย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ที่เป็นชาติพันธุ์กะเหรี่ยง กว่า 40 คน ที่ทางอุทยานได้รับเข้าทำงาน จะช่วยพูดคุยทำความเข้าใจ รวมทั้งจะชี้แจงถึงการให้สิทธิทำกินที่อาจจะยังติดปัญหาเรื่องสัญชาติด้วย

ขณะที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ชี้แจงความคืบหน้าในการสำรวจขอบเขตที่ดินร่วมกับคณะทำงานสำรวยพื้นที่ตามคำสั่ง คสช. 66/2557 จากที่เข้าหลักเกณฑ์ 75 แปลง 440 ไร่ ได้สำรวจที่บ้านบางกลอย ไปแล้ว 36 ราย 228 ไร่ บ้านโป่งลึก 212 ไร่ ซึ่งจากอพยพมาในปี 2539 มี 57 ครอบครัว และอาจมีเพิ่มมาแต่ไม่ได้เข้าระบบ ซึ่งทางอุทยานกำลังดำเนินการ ควบคู่กับการพัฒนาที่พบว่าการปลูกกล้วยสร้างรายได้ปีละกว่า 2 ล้านบาท ทุเรียน 2 ล้านบาท กาแฟ กว่า 3 แสนบาท 


ซึ่งนายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ที่ลงพื้นที่มาตรวจสอบเรื่องนี้ เนื่องจากชาวบ้านบางกลอยได้ร้องเรียนตั้งแต่ปี 2563 ยืนยันว่าไม่มีใครชี้นำ แต่การกลับไปใจแผ่นดินเป็นการตัดสินใจของชาวบ้านเอง ทำให้ปัญหาย้อนกลับไปที่สิทธิในที่ดิน จึงเรียกร้องให้กรมอุทยาน ใช้หลักเจรจามาแก้ปัญหา อาจต้องระงับการดำเนินคดีเพื่อหาทางออกร่วมกัน


พีมูฟได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านบางกลอย เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อไป 

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ